บริทาเนีย สายไหม-คูคต สเตชั่น

           ชวนมาใช้ชีวิตติดเมือง กับโครงการทาวน์โฮมราคาคอนโด “บริทาเนีย สายไหม-คูคต สเตชั่น” บ้านหลังแรกที่เหมาะกับคนทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น วัยเริ่มต้นทำงาน หรือ First Jobber, ครอบครัวเริ่มต้น ไปจนถึงครอบครัวขนาดกลาง รวมถึงวัยรุ่นสายชิคสายชิลล์ที่หลงรักใน Urban Lifestlye ซึ่งโครงการนี้ จะมาในรูปแบบของทาวน์โฮมสไตล์ English Modern Classic พร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบจากความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่านสายไหม รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สำคัญก็คือ อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสุขุมวิท สถานีคูคต เพียง 3 นาที* พร้อมบริการรับ-ส่ง ถึงสถานีและโครงการด้วย Shuttle Van และ Tuk Tuk OnDemand เชื่อมต่อใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย



           สำหรับ “บริทาเนีย สายไหม-คูคต สเตชั่น” จะเป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มาในสไตล์ English Modern Classic สร้างเอกลักษณ์ทางด้านงานสถาปัตยกรรมด้วยการใช้เส้นสายของความโค้งมน เน้นโทนสีขาวและสีเทาให้สอดรับกันทั่วทั้งโครงการ โดยเริ่มตั้งแต่ Main Gate, Clubhouse ไปจนถึงบ้านที่พักอาศัย เมื่อมองเข้าไปแล้ว จะสัมผัสได้ถึงความเรียบง่าย และความคลาสสิคที่ยังคงทันสมัย
          โครงการนี้ มีพื้นที่ทั้งหมด 36-3-1.2 ไร่ และมีบ้านจำนวน 297 ยูนิต โดยจะมีให้เลือก 2 แบบ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 18.7 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 108 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2-3 ห้องนอน, 1 ห้องอเนกประสงค์, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัวไทย และ 2 ที่จอดรถ พร้อมด้วยนวัตกรรมการอยู่อาศัย ระบบ Smart Home Automation “B Genius Mode” ที่จะช่วยให้การอยู่บ้านสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย Door&Window Magnetic Sensor, IP Camera และ Digital Door Lock ให้กับบ้านทุกหลัง


         
          ในส่วนของทำเลที่ตั้ง เรียกได้ว่าโครงการนี้ ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพแห่งใหม่ ติดถนนสายไหม ซึ่งสามารถใช้เชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้อีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนพหลโยธิน,ถนนหทัยราษฎร์, ถนนสุขาภิบาล 5, ถนนวัชรพล, ถนนรามอินทรา และถนนลำลูกกา อีกทั้งยังมีทางด่วนที่อยู่ใกล้กับโครงการ ได้แก่ ได้แก่ ทางด่วนฉลองรัช (ด่านรามอินทรา-อาจณรงค์), และดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วยให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น นอกจากศักยภาพของทำเลนี้ จะรองรับผู้อยู่อาศัยที่มีรถยนต์ส่วนตัวแล้ว สำหรับผู้ที่ใช้บริการรถสาธารณะเป็นประจำ ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้ได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน เนื่องจากมีรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท หรือ BTS สายสีเขียวอ่อนอยู่ใกล้ ๆ กับโครงการ โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาที* ก็ถึงสถานีคูคต ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่า BTS เป็นรถไฟฟ้าสายหลักสายเดียวที่จะใช้เชื่อมต่อย่านสำคัญใจกลางเมืองได้ รวมทั้งยังมีจุด Interchange ตามสถานีต่าง ๆ ให้เปลี่ยนการเดินทางไปยังรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ เพื่อให้ถึงปลายทางได้อย่างรวดเร็ว


▪ Big C Market สายไหม
▪ ตลาดเอ.ซี. สายไหม
▪ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม
▪ โรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม
▪ BTS คูคต

          ทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ย่านสายไหม ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่อุดมสมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยแหล่งอุปโภค-บริโภค ทั้งตลาด, ห้างร้าน, แหล่งช็อปปิ้ง, โรงเรียน และโรงพยาบาล อาทิ Big C Market สายไหม, ตลาดเอ.ซี. สายไหม หรือเดินทางออกไปอีกหน่อยก็มีห้างใหญ่อย่าง Future Park รังสิต, โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม และโรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม อีกทั้งยังเป็นโครงการที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง โดยใช้เวลาเดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จึงเรียกได้ว่า ย่านนี้สามารถเชื่อมต่อการคมนาคมได้ทุกรูปแบบ รองรับทุกความต้องในเรื่องการเดินทางได้อย่างครบครันเลยครับ
  หลังจากที่พาไปสำรวจทำเลรอบ ๆ และรู้จักพิกัดของโครงการกันแล้ว ลองเข้ามาดูด้านในโครงการกันบ้างครับว่าจะเป็นอย่างไร … เริ่มกันที่โซนแรกตั้งแต่ทางเข้าโครงการเลย เมื่อมาถึงทางเข้า เราจะเห็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ ดูมีภูมิฐาน และแข็งแรง ซึ่งดีไซน์ของ Main Gate สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอังกฤษในยุคอุตสาหกรรมใหม่ โดดเด่นและดูแปลกตาอยู่บนถนนเส้นหน้าโครงการ



บริเวณด้านหน้าโครงการ มีการจัดสวน ตกแต่งสวนไว้อย่างสวยงาม มีทั้งสนามหญ้า ต้นไม้เล็ก-ใหญ่ สลับกันไป ให้ความร่มรื่น ดูน่าอยู่ตั้งแต่แรกเห็น



เมื่อเข้ามาถึงบริเวณทางเข้า-ออก โครงการนี้จะใช้ระบบ Double Security Gate ก็คือเป็นทางเข้าโครงการ 2 ชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นไม้กั้นกระดก และชั้นสองจะเป็นประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติ ทั้งนี้ก็เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้านมากยิ่งขึ้น



แบ่งแยกทางเข้า-ออก ไว้อย่างชัดเจน โดยทางด้านซ้าย จะเป็นช่องสำหรับลูกบ้าน ที่มี Key Card Access ส่วนทางด้านขวาที่ติดกับป้อมรปภ. จะเป็นช่องสำหรับ Visitor ซึ่งจะต้องแลกบัตรทุกครั้งเมื่อมีการเข้า-ออก โครงการครับ



ช่องทางเข้าสำหรับลูกบ้าน ใช้งานผ่านระบบ Key Card Access พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด และกล้องส่องป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ยู่ด้านล่าง



ช่องสำหรับ Visitor ที่จะติดกล้องวงจรปิด จับภาพหน้าคนขับ และทะเบียนรถเช่นกัน



เมื่อผ่าน Main Gate มาแล้ว จะพบกับอาคารคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่อยู่ทางด้านซ้าย โดยลักษณะของงานสถาปัตยกรรมจะเน้นใช้เส้นสายโค้งมน ผสานความเป็นคลาสสิค และความทันสมัยสไตล์ English Modern Classic อย่างลงตัว



          คลับเฮ้าส์ 2 ชั้น สไตล์อังกฤษที่เรียกว่า “Britania Club” ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าโครงการ เป็นพื้นที่สำหรับ Facilities ที่มาครบทุกรูปแบบ รองรับได้ทุกกิจกรรม และเหมาะกับผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Living Room, Kids Room, Fitness Room, Yoga Room และ Function Room รวมทั้งยังมีสนามบาส และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่



ขึ้นมาที่ด้านบน จะเจอกับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และ Pool Terrace



สระว่ายน้ำ Lap Pool ความยาวได้มาตรฐาน รอบ ๆ สระ ตกแต่งด้วยไม้พันธุ์ใหญ่ และ Vertical Garden ซึ่งจะช่วยพรางตาจากถนนเมนของโครงการ ดูแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน



​บริเวณริมสระ จะมี Sunbed ตั้งเรียงอยู่ 4 ตัว รองรับสำหรับการพักผ่อน ส่วนสระว่ายน้ำเด็ก จะอยู่ใกล้กับโถงทางเดิน และ Pool Terrace เผื่อเวลาที่เด็ก ๆ เล่นน้ำ จะได้อยู่ในสายตาของผู้ปกครองมากที่สุดครับ



ดีไซน์ของซุ้มประตูคลับเฮ้าส์ ยังคงดีไซน์ของความโค้งมนเอาไว้เช่นเดิม ดูคลาสสิค สวยงาม และทันสมัย



โซนแรกของอาคารคลับเฮ้าส์เมื่อเข้ามาด้านใน จะเป็นโถง Living Area ขนาดใหญ่ Floor to Ceilling 7 เมตร ซึ่งดูสูง โปร่ง และกว้างมาก ๆ ครับ



ประดับตกแต่งพื้นที่ด้วยโคมไฟระย้าสีทอง ดีไซน์หรูหรา สอดรับกับสีชมพู-แดง ของเฟอร์นิเจอร์



พร้อมจัดเตรียมมุมรับรองไว้ให้หลาย ๆ มุม รวมทั้งชุดโต๊ะทำงาน ซึ่งลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่โซนนี้ในการนัดเพื่อน หรือรับรองแขกก็ได้ครับ เพราะโซนนี้มี Internet Wi-Fi ให้ใช้บริการด้วย



อีกฝั่งหนึ่งของคลับเฮ้าส์ชั้นล่าง จะมี Kids Room ที่ตกแต่งด้วยโทนสีสดใส พร้อมอุปกรณ์เรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ อีกทั้งยังจัดเตรียมมุมสำหรับทำการบ้านให้อีกด้วย ถือว่าเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการทำการบ้านของเด็ก ๆ ครับ



ด้านข้าง Kids Room ก็จะเป็นทางขึ้นอาคารคลับเฮ้าส์ชั้น 2 ครับ ขึ้นมาแล้วทางด้านซ้ายมือ จะเป็น Function Room



อีกหนึ่งห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ที่สามารถใช้เป็น Meeting Room หรือจะใช้เป็น Co-Working Space สำหรับนั่งทำงานก็ได้ครับ



สังเกตเห็นว่า ภายในห้องนี้ จะมี Mini Bar พร้อมเตาไมโครเวฟสำหรับอุ่นอาหาร มีอ่างล้างจานให้ด้วย ตรงนี้ ลูกบ้านสามารถใช้เป็นสถานที่จัดปาร์ตี้วันเกิดเล็ก ๆ ให้กับสมาชิกครอบครัวได้ด้วยครับ



มีการจัดวางโต๊ะอเนกประสงค์ไว้หลายชุด หลายมุม ทั้งโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร และเคาน์เตอร์บาร์ยาวขนาด 6 ที่นั่ง รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกหลายคนได้เลย



ตรงข้ามกับ Function Room จะเป็น Yoga Room และห้องฟิตเนสครับ ซึ่ง Yoga Room จะเป็นห้องสตูดิโอที่ลูกบ้านสามารถใช้พื้นที่นี้จัดคลาสโยคะได้ด้วย



ภายในห้องจะมีอุปกรณ์สำหรับเล่นโยคะมาให้ เช่น เสื่อ และลูกบอล รวมทั้งยังติดตั้งจอโทรทัศน์ไว้ เพื่อใช้เป็นสื่อเรียนรู้สำหรับการออกกำลังกายครับ



มาต่อกันที่ห้องฟิตเนสครับ ห้องค่อนข้างใหญ่ พื้นที่กว้างมากครับ ชุดอุปกรณ์มีให้ครบได้มาตรฐานฟิตเนส ซึ่งลูกบ้านสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการเลย



อุปกรณ์ออกกำลังกายสำหรับ Cardio และ Weight Training



ห้องฟิตเนส บรรยากาศดี รับวิวสวนและสระว่ายน้ำ



Tuk Tuk OnDemand รับ-ส่งลูกบ้านถึงสถานีคูคต



เรามาดูกันที่โซนพักอาศัยกันบ้างครับ สำหรับถนนในซอยจะมีความกว้างอยู่ที่ 12 เมตร รถใหญ่ขับสวนกันได้ หรือจะกลับรถก็ง่ายครับ


 
          แบบบ้านในโครงการนี้ จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์ English Modern Classic ทั้งหมด 2 รูปแบบ พื้นที่ใช้สอย 108 ตร.ม. โดดเด่นด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาจัดการชีวิตการอยู่อาศัยให้สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ซึ่งก็คือ “B Genius Mode” นั่นเองครับ

▪ ทาวน์โฮม Molton พื้นที่ใช้สอย 108 ตร.ม. ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ
▪ ทาวน์โฮม Berwick พื้นที่ใช้สอย 108 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 2 ที่จอดรถ