Where The Loves Expands
พื้นที่ความรัก ใจกลางธรรมชาติ
.jpg)
เพราะบ้านอยู่ในทุกช่วงชีวิตการเดินทางของเรา และครอบครัว เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้ความเป็นครอบครัวสมบูรณ์ อีกทั้งเป็นสักขีพยานทุกช่วงโมเมนต์ที่ดีของกันและกัน Where The Lover Expands มาลองสัมผัสพื้นที่ความรักใจกลางธรรมชาติกับบ้านสไตล์ Urban Farmhouse ที่ผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างลงตัว พร้อมด้วยการออกแบบที่โดดเด่น เรียบง่าย โปร่ง โล่ง สบาย ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ พร้อมวิวทะเลสาบเหมือนอยู่ในหุบเขาลึกลับกับ “สราญสิริ ศรีวารี 2” โครงการใหม่จากแสนสิริที่พิถีพิถันออกแบบบ้านอย่างใส่ใจทุกรายละเอียด ให้ทุกฟังก์ชันภายในบ้านใช้งานได้จริงรองรับทุกไลฟ์สไตล์ทุกช่วงวัยในครอบครัว ให้บ้านเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง
สำหรับโครงการสราญสิริ ศรีวารี 2 ตั้งอยู่บนทำเลบางนา – ศรีวารี พื้นที่โครงการ 83-2-39.70 ไร่ ภายในโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Urban Farmhouse พื้นที่ใช้สอย 138 - 280 ตร.ม. ด้วยราคาเริ่มต้น 6 - 12 ล้านบาท
.jpg)
บางนา-ศรีวารี บางนาเป็นย่านที่คึกคักทั้งด้านการอยู่อาศัย พาณิชย์ และอุตสาหกรรม เป็นทำเลทองและทำเลศักยภาพที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา คนมักจะเลือกตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณนี้ เนื่องจากในอนาคตมีแผนพัฒนาความเจริญด้านต่าง ๆ ทางด้านการคมนาคมเองก็เดินทางสะดวกสบาย โดยสามารถเดินทางเข้าออกใจกลางเมืองได้ง่าย เพราะมีถนนและทางพิเศษมากมายให้เลือกเดินทางตามความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น
∎ ถนนเทพรัตน์ (บางนา-ตราด หรือทางหลวงหมายเลข 34) เข้าออกกรุงเทพ โดยไปบรรจบที่ถนนสุขุมวิทหรือจะออกไปทางภาคตะวันออกอย่างสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรีก็ได้
∎ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร เชื่อมเมืองหรือภาคต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
∎ ทางพิเศษบูรพาวิถี อยู่ในเขตบางนาเชื่อมกรุงเทพ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี
เมื่อเจาะมาที่ย่านศรีวารีเป็นย่านที่มีชุมชนดั้งเดิมตั้งอยู่เต็มไปด้วยวัด วัดป่า ตลาดน้ำ ฟาร์ม สวนโดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ไม่ค่อยมีอาคารสูงล้อมรอบมากนัก จึงเป็นย่านที่เงียบสงบ เรียบง่าย และผ่อนคลาย ปัจจุบันเป็นย่านที่มีชีวิตชีวาและคึกคัก เนื่องจากใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ได้รับการพัฒนาในทุกด้าน เกิดห้างสรรพสินค้า คาเฟ่ ร้านอาหาร และสนามกอล์ฟ ความน่าสนใจของศรีวารีอยู่ตรงที่แม้ว่าจะพัฒนาขึ้นมาก แต่ยังคงเป็นพื้นที่สีเขียวและมีพื้นที่อุตสาหกรรมน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่อย่างกิ่งแก้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องมลพิษที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเดินทางสะดวกเพราะตัดกับ
∎ ทางพิเศษบูรพาวิถี
∎ บางนาตราด กม. 18
∎ ถนนลาดกระบัง
แผนที่โครงการ
โครงการ “สราญสิริ ศรีวารี 2” ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงชนบทสมุทรปราการ ซอยวัดศรีน้อย ระหว่างถนนบางนา-ตราด กม.18 และถนนลาดกระบัง จุดเด่นที่น่าจับตามองด้านทำเลโครงการคือตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมน้อยมาก บรรยากาศสงบ ไม่วุ่นวายและเสียงดัง อีกทั้งเดินทางเข้าออกใจกลางเมืองได้ง่ายผ่านเส้นทางบางนา-ตราด ลาดกระบัง หรือมอเตอร์เวย์พระราม 9 พร้อมทั้งล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย และอื่น ๆ อีกมากมาย
ด้านการเดินทาง
∎ ถนนลาดกระบัง 3 กม.
∎ สนามบินนานาชาติ สุวรรณภูมิ 8 กม.
∎ แอร์พอร์ตลิงก์ ลาดกระบัง 9 กม.
∎ ทางพิเศษ กรุงเทพ-ชลบุรี มอเตอร์เวย์ 10 กม.
∎ ทางพิเศษบูรพาวิถี 14 กม.
∎ ถนนบางนา-ตราด 18 กม.
∎ ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก-วงแหวนใต้) 22 กม.
ด้านไลฟ์สไตล์
∎ คิง พาวเวอร์ ศรีวารี 5 กม.
∎ มาร์เก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิ 17 กม.
∎ ฟู้ดแลนด์ บางนา 20 กม.
∎ เซ็นทรัล วิลเลจ 20 กม.
ด้านการศึกษา
∎ โรงเรียนสาธิตนานาชาติ พระจอมเกล้าลาดกระบัง 4.6 กม.
∎ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ 19 กม.
∎ โรงเรียน สารสาสน์ ร่มเกล้า 11 กม.
∎ The American School of Bangkok 18 กม.
ด้านสุขภาพ
∎ โรงพยาบาลลาดกระบัง 5 กม.
∎ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต 16 กม.
∎ โรงพยาบาลบางนา 2 19 กม.
∎ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 21 กม.
ดังนั้นด้านทำเลโครงการจึงตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทั้งด้านการคมนาคมและแหล่งไลฟ์สไตล์ด้านต่าง ๆ เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อถนนได้หลายสายทั้งสายหลัก สายรอง ทางด่วน หรือรถไฟฟ้า และใกล้แหล่งคอมมิวนิตีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล หรือสถานศึกษา อีกทั้งในอนาคตพื้นที่ตรงนี้จะได้รับการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดทำให้ยิ่งสะดวกสบายมากขึ้น
ประตูทางเข้าโครงการมีการออกแบบหลังคาทรงจั่วแบบไม่สมมาตรที่คล้ายลวดลายธรรมชาติ เมื่อมองเข้าไปให้ความรู้สึกถึงบ้านที่น่าอยู่ อบอุ่น และเรียบง่าย บริเวณประตูมีป้อม รปภ. และพนักงานรักษาความปลอดภัยที่คอยตรวจตราและบริการทางเข้าออกอยู่ตลอดเวลา โดยประตูทางเข้าใช้ระบบ Auto Gate เปิดปิดอัตโนมัติเมื่อผ่านทาง นอกจากนี้ยังแยกประตูเข้าออกของลูกบ้านและผู้มาเยือนให้ด้วยเพื่อความสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งระบบความปลอดภัยที่ใช้งานเป็นระบบ LIV24 ป้องกัน 3 ชั้น ของแสนสิริ ไม่ว่าจะเป็น Digital Fence ระบบรั้วป้องกันผู้บุกรุก Analytic System กล้อง CCTV ตรวจจับในจุดอับสายตา และ Real Time Guard Tour สำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจตราตามจุดที่ติดตั้งในโครงการ
Road Trip Journey
ให้ทุกวันเหมือนการเดินทางท่ามกลางธรรมชาติ
ส่วนกลางของโครงการก็ให้มามากมายใช้งานได้จริง โดยนำเอกลักษณ์จากสถาปัตย์กรรม Cape Dutch มาผสมผสานกับความ Urban Farmhouse พร้อมแรงบันดาลใจจาก Road Trip Journey ให้เสมือนการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ดังนั้นส่วนกลางจึงมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ล้อมรอบ พร้อมวิวทะเลสาบ เหมือนบ้านลึกลับในหุบเขาที่เห็นจากภาพยนตร์ พร้อมส่วนกลางที่ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมของช่วงวัย รองรับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่
◾ PEACEFUL LAKE
◾ SWIMMING POOL
◾ CLUBHOUSE
◾ FISSNESS
◾ CO-WORKING SPACE
◾ KIDS PLAYGROUND
◾ LIV-24
◾ SPORT AREA
◾ DOG PARK
.jpg)
HOUSE TYPE
เชื่อมต่อทุกฟังก์ชันการใช้งาน
แบบบ้านโครงการสราญสิริ ศรีวารี 2 มีทั้งหมด 6 แบบด้วยกัน โดยเป็นดีไซน์ Urban Farmhouse เอกลักษณ์อันโดดเด่นของโครงการที่ภายในเชื่อมต่อกันในทุกฟังก์ชัน แต่ยังมีพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้กับทุกคน ซึ่งรายละเอียดด้านในก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม bay window (มุมข้างหน้าต่าง) double volume (พื้นที่ความสูงจากพื้นถึงเพดาน) โซนพักผ่อน ห้องเมด หรือครัวไทย โดยพยายามดึงความเป็นธรรมชาติและความโมเดิร์นในแบบเมืองมาใช้งานให้ได้มากที่สุดเพื่อให้บ้านกลมกลืนไปด้วยกัน ซึ่งมีการนำชื่อดอกไม้ต่าง ๆ มาตั้งเป็นชื่อบ้านด้วย โดยแต่ละแบบมีรายละเอียดดังนี้
GYPSO
พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ห้องรับแขกโซนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย มุม IT
BUTTERCUP
พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ ห้องรับแขกพร้อม โซนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย โซนพักผ่อนชั้นบน
DAISY
พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 (บน 2, ล่าง 1) ห้องน้ำ 2 จอดรถ ห้องรับแขก โซนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย Multi - function space พร้อม Bay window และห้องเก็บของ
CAMELIA
พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ ห้องรับแขก โซนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย Multi-function space กับ Bay Window พร้อม Semi-Outdoor Washing Area และห้องเก็บของ
CALENDURA
พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 จอดรถ ห้องรับแขกพร้อม Double Volume Living โซนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย โซนพักผ่อนชั้นบน และห้องเก็บของ
VERBENA
พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 จอดรถ ห้องรับแขกพร้อม Double Volume โซนรับประทานอาหาร ห้องครัวไทย โซนพักผ่อนชั้นบน และห้องเมด
บ้านที่เราจะพาไปดูวันนี้คือแบบบ้าน Verbena และ Calendura ซึ่งจะมีความน่าสนใจและความพิเศษยังไปดูกัน
บ้าน VERBENA
พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
เริ่มต้นที่บ้านหลังแรกที่จะพามาดู “VERBENA” (เวอร์บีนา) เป็นตัวแทนแห่งความสุขสมบูรณ์ในครอบครัว โครงการนำมาตั้งเป็นชื่อบ้านหลังนี้เพื่อหวังว่าผู้ที่มาอยู่อาศัยจะอยู่ด้วยกันกับครอบครัวอย่างสุขสันต์ตลอดทุกช่วงเวลา บ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่หรือครอบครัวที่มีลูกแล้ว เนื่องจากเป็นบ้านที่มีพื้นที่และจำนวนห้องเยอะที่สุดในโครงการ โดยมีพื้นที่ใช้สอยถึง 280 ตร.ม. ประกอบด้วยโซนต่าง ๆ ดังนี้
◾ 4 ห้องนอน
◾ 4 ห้องน้ำ
◾ 3 ที่จอดรถ
◾ ห้องรับแขกพร้อม Double Volume
◾ โซนรับประทานอาหาร
◾ ห้องครัวไทย
◾ โซนพักผ่อนชั้นบน
◾ ห้องเมด
จุดสังเกตแรกของบ้านหลังนี้คือบริเวณ Main Entrance ทางเข้าหน้าบ้าน จะสูงมาก ซึ่งสูงเกือบ 6 เมตร โดยบ้านทุกหลังมีโถงทางเข้าแบบนี้แต่แตกต่างกันตามแบบบ้าน
หน้าบ้านมี Parking Area หรือที่จอดรถในร่มสามารถจอดรถได้ทั้งหมด 3 คัน ซึ่งจอดได้ทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ และรถไฟฟ้า ส่วนใครที่มีรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องกังวลเรื่องการหาที่ชาร์จแบตเตอรี่ เพราะโครงการให้ EV Charger มาด้วย พื้นที่จอดรถติดกับหน้าหน้าต่างบานเล็กสามารถมองจากด้านในบ้านออกมาได้
เมื่อเข้ามาในบ้านตัวอย่างจะเจอ Foyer Hall โถงด้านในก่อนเป็นอันดับแรก โดยกั้นเป็นโซนไว้ซึ่งอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น พื้นที่โถงใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์โทนกลางอย่าง สีน้ำตาล สีครีม ให้รู้สึกถึงบรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัว ด้านข้างประตูมีสวิตช์ไฟและที่วางร่มไว้ให้ นอกจากนี้ยังวางโซฟาไว้ให้ด้วย ทำไว้สำหรับนั่งตอนถอดหรือใส่รองเท้าได้ ซึ่งตรงโถงทางเดินสามารถปรับเปลี่ยนหรือวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบได้
เมื่อเดินเข้ามาด้านในฝั่งซ้ายมือจะเจอห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกซึ่งโซนนี้กว้างมากพอสมควร โดยมีจุดเด่นคือเป็นพื้นที่ที่มาพร้อมกับ Double Volume ความสูงจากพื้นถึงเพดานที่สูงถึง 6 เมตร พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่รับแสงแดดได้อย่างเต็มที่ ทำให้โซนนี้โปร่ง โล่ง และสว่าง โดยวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างโซฟาขนาด 5-6 คนนั่งและตู้วางทีวีขนาดใหญ่ได้ และยังเหลือพื้นที่ในการเดินค่อนข้างมาก
.jpg)
เมื่อเดินตรงมาจากโซนรับแขกจะเป็นโซนรับประทานอาหาร ที่นั่งได้ประมาณ 6-8 คน จุดเด่นของโซนนี้คือติดกับสวนข้างบ้าน ซึ่งมีประตู 2 บานกั้นการเข้าออกสวนจากบริเวณนี้ สามารถไปนั่งเล่นรับลมสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ และในขณะที่รับประทานอาหารก็สามารถมองเห็นวิวสวนได้เช่นกัน ซึ่งพื้นที่โซนรับประทานอาหารตกแต่งดอกไม้วัสดุพรีเมียมที่ใช้งานได้จริง ใช้สีโทนอ่อนและสีเขียว ช่วยให้บรรยากาศมีความอบอุ่น โมเดิร์นและทันสมัยมากขึ้น
โซนครัวด้านในกว้างขวางและใหญ่ โดยสามารถวางเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเครื่องดูดควัน วางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าได้ และยังเหลือพื้นที่ตรงกลางอีกมาก สามารถวางโต๊ะตรงกลางเพื่อใช้วางของในการทำครัวเพิ่มได้อีก ซึ่งด้านหลังครัวเมื่อเปิดประตูออกไปจะมีห้องเมดและห้องน้ำอยู่ด้านหลังอีก 1 ห้อง
ด้านใต้บันไดติดกับห้องน้ำและห้องนอนมีห้องเก็บของเล็ก ๆ เอาไว้เก็บเพื่อจัดระเบียบห้องได้
สำหรับห้องน้ำ มีจุดเด่นคือเป็นแบบ Double Access สามารถเข้าได้ 2 ทาง คือ จากฝั่งของห้องนอนและฝั่งของห้องนั่งเล่น สามารถใช้เป็นได้ทั้งห้องน้ำส่วนตัวและห้องน้ำรวมได้ ด้านในกั้นโซนเปียกและโซนแห้งไว้ให้ ซึ่งตัวกั้นจะเป็นสเต็ปขึ้นไป โดยมีโถสุขภัณฑ์และฝักบัว พร้อมช่องวางของและกระจกบานใหญ่ให้
ห้องนอนด้านชั้น 1 มีขนาดใหญ่พอสมควรเมื่อเทียบกับห้องทั่วไปสามารถวางเตียงขนาด 3.5 - 5 ฟุตได้ โดยยังมีพื้นที่วางด้านข้างเหลืออยู่ เตียงอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ตอนเช้าสามารถรับวิตามินผิวได้อย่างเต็มที่ ส่วนด้านข้างเป็น walkin-closet ในตัว ไม่ได้แยกโซนให้ จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่ความเป็นห้องชั้นล่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน เช่น ปรับเป็นห้องนอนภรรยาขณะตั้งครรภ์ได้ ห้องนอนผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนหรือการตกจากที่สูงได้ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเป็นห้องนอนแขก ห้องทำงาน หรือห้องสังสรรค์ได้
ชั้น 2 โถงด้านในจะเป็นโซนพักผ่อนหรือแฟมมิลีโซน เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ทำกิจกรรมต่าง ๆ กับครอบครัวร่วมกัน เช่น ดูหนัง อ่านหนังสือ เล่นเกม หรือคุยกันก่อนเข้านอนได้ จุดเด่นของโซนนี้อยู่ติดกับ Double Volume เมื่อมองลงไปด้านล่างจะเห็นห้องนั่งเล่น
ห้องนอนที่ 2 เป็นห้องขนาดกลางมีจุดเด่นคืออยู่ติดกับสวนข้างบ้าน ทำให้สามารถมองเห็นวิวสวนได้ ซึ่งภายในห้องแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนทำงาน โซนตู้เสื้อผ้า ระเบียง และห้องน้ำ ด้านในวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ด้านข้างเตียงทั้ง 2 สามารถวางเป็นโต๊ะอ่านหนังสือหรือโต๊ะทำงานได้ ด้านในมีห้องน้ำในตัวกั้นโซนเปียกและโซนแห้งไว้ให้
ห้องที่ 3 Master Room ห้องขนาดใหญ่ที่สุดที่มีจุดเด่นคือมี Minibar, walkin-closet ที่อยู่ปลายเตียงและด้านหลัง โดยกั้นโซนไว้และห้องน้ำมีฟังก์ชันพิเศษ ซึ่งในห้องกว้างและใหญ่แม้จะแบ่งโซนต่าง ๆ ก็มีที่เหลืออีกมาก กลางห้องวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้อย่างสบาย ปลายเตียงวางตู้วางของได้และมีพื้นที่เดินระหว่างเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ ด้านข้างบิวต์อินเป็นโต๊ะทำงานซึ่งมีหน้าต่างที่ให้แสงสว่างเพียงพอส่วนด้านหลังสามารถกั้นโซน walkin-closet และโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้
โซนห้องน้ำแยกโซนเปียกและโซนแห้ง จุดเด่นของห้องน้ำห้องนี้คือมีโถสุขภัณฑ์อัจฉริยะปรับระดับหรือฟังก์ชันการใช้งานได้ ด้านข้างทำเป็นอ่างจากุชชี่สามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ และให้อ่างล้างหน้า His & Her มา
ห้องสุดท้ายห้องเป็นห้องที่มีขนาดกำลังพอดีพร้อมห้องน้ำในตัว ด้านในวางเตียง วางโซฟา วางโต๊ะทำงาน หรือบิวต์อินตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้ หรือจะกั้นโซนเพิ่มก็ได้ ซึ่งห้องน้ำคล้ายกับห้องน้ำห้องอื่น ๆ ที่กั้นโซนเปียกและโซนแห้งไว้ให้พร้อมโถสุขภัณฑ์และฝักบัวอ่อน โดยสามารถวางชั้นในห้องน้ำเพิ่มได้ พื้นที่ก็ยังเหลืออีกเยอะเลย
บ้าน CALENDURA
พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
แบบบ้านสุดท้าย “CALENDURA” (คาเลนดูล่า) สัญลักษณ์ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านบวก ความสดใสดั่งดวงอาทิตย์ และความสุข บ้าน Calendura มีขนาดใหญ่รองลงมาจาก บ้าน Verbena โดยมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า 30 ตร.ม. เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่และครอบครัวที่แต่งงานแล้ว ซึ่งภายในแบ่งสัดส่วนพื้นที่อย่างชัดเจน ประกอบด้วย
◾ 4 ห้องนอน
◾ 4 ห้องน้ำ
◾ ห้องรับแขก พร้อม Double Volume
◾ 3 ที่จอดรถ
◾ โซนรับประทานอาหาร
◾ ห้องครัวไทย
◾ โซนพักผ่อนชั้นบน
◾ ห้องเก็บของ
จุดต่างของหน้าบ้านหลังนี้กับบ้านหลังแรก คือ โถงหน้าบ้านสูงน้อยกว่าบ้านหลังแรก และไม่มีลานน้ำพุด้านข้าง
สำหรับพื้นที่จอดรถหน้าบ้านสามารถจอดได้ 3 คัน แบ่งเป็นพื้นที่ในร่มจอดได้ 2 คัน และนอกร่ม 1 คัน พร้อม EV Charger ไว้สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รอบบ้านล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว โดยเชื่อมต่อกับโถงทางเดินหน้าบ้าน โซนนี้แตกต่างจากบ้านหลังแรกคือจอดรถนอกร่มได้ 1 คัน แต่บ้านเบอร์วีนาจอดรถในร่มทั้งหมด
โถงในบ้านเชื่อมต่อกันทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นโซนนั่งเล่น โซนรับประทานอาหาร โซนครัว ห้องน้ำ และทางขึ้นบันไดชั้น 2 โดยประตูทางเข้าเป็นประตูบานเดียว ด้านข้างเป็นโต๊ะไว้สำหรับวางของ สามารถบิวต์อินตู้วางรองเท้าหรือตู้เก็บของเพิ่มเติมได้ โซนนี้มีความแตกต่างจากแบบบ้าน Verbena อยู่ 2 จุด คือ โถงทางเดินในบ้านสั้นกว่าและติดทางขึ้นบันไดชั้น 2 ส่วนประตูทางเข้าเป็นประตูบานเดียวไม่มีกระจกด้านข้าง
ห้องรับแขกแปลนคล้ายกับบ้าน Verbena เป็นห้องรับแขกที่มาพร้อมกับ Double Volume ทำให้พื้นที่สูงโปร่ง โล่งและสว่างตาด้วยกระจกบานใหญ่รอบข้าง สามารถวางโซฟา วางตู้วางทีวี หรือบิวต์อินเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมได้อย่างไม่อึดอัด และมีพื้นที่เหลือเดินได้อย่างสบาย
ด้านข้างกันเป็นโซนรับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 6-8 คนนั่งได้ จุดเด่นของโซนนี้คืออยู่ใกล้สวนข้างบ้าน ขณะรับประทานอาหารหรือปาร์ตี้สังสรรค์ก็มองวิวด้านนอกได้ นอกจากนี้ยังมีประตู 2 บานที่เดินออกไปนั่งผ่อนคลายรับลมเย็น ๆ ด้านนอกได้
โซนครัวอยู่ติดกับโซนรับประทานอาหาร ด้านในกว้างขวาง วางอุปกรณ์ครัวหรือบิวต์อินเครื่องครัวได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จุดต่างของบ้านหลังนี้กับบ้าน Verbena คือด้านหลังครัวไม่มีห้องเมดและห้องน้ำแต่เป็นพื้นที่สำหรับซักล้างแทน
ห้องน้ำด้านล่างเป็นห้องน้ำรวมระหว่างห้องรับแขกและห้องนอนด้านล่าง อยู่ฝั่งเดียวกับบันไดและห้องนอน ภายในกั้นโซนเปียกและโซนแห้งชัดเจน โดยมีโถสุขภัณฑ์และชุดฝักบัวให้
ห้องนอนชั้นล่าง มีขนาดพอเหมาะกับ 1-2 คน ด้านในกั้นเป็นโซนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน โซนทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า โดยด้านในสามารถปรับแต่งและบิวต์อินได้ตามการใช้งาน อีกทั้งห้องนี้ไม่มีห้องน้ำในตัวต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องรับแขก
ชั้น 2 เมื่อเดินตรงมาจากบันไดจะเจอพื้นที่พักผ่อนด้านบน เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ใช้งานต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์กับครอบครัวได้ โดยพื้นที่ตรงนี้มีจุดเด่นคือติดกับ Double Volume สามารถมองเห็นห้องนั่งเล่นด้านล่างได้
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้อง Master Room ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของแบบบ้านนี้ ด้านในแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอนที่สามารถวางเตียง King Size หรือ Queen Size ได้ มุมปลายเตียงวางที่นอนสุนัขและแมว ด้านข้างวางโต๊ะเครื่องแป้ง และใช้ม่านกั้นโซน Walkin-closet รวมกับห้องน้ำได้ จุดเด่นของห้องนี้คือเป็นห้องที่มองเห็นห้องรับแขกด้านล่างได้ โดยสามารถวางเก้าอี้หรือโต๊ะข้างหน้าต่างมองวิวห้องนั่งเล่นจากด้านบนได้เลย ห้องน้ำด้านในกั้นโซนเปียกและโซนแห้งชัดเจน โดยมีโถสุขภัณฑ์อัจฉริยะปรับระดับและการทำงานได้ พร้อมให้ฝักบัวมาด้วย ความต่างของห้องนี้กับ Master Room ห้องเดียวกันกับแบบบ้าน Verbena คือ ไม่มีอ่างจากุชชี่และมีอ่างล้างมือแค่ 1 อ่างเท่านั้น
ห้องนอนที่ 3 เป็นห้องนอนขนาดกลาง ระเบียงติดวิวสวน ด้านในแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ สามารถวางเตียง วางโต๊ะทำงาน หรือเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ จุดเด่นของห้องนี้คือมี walkin-closet ที่กั้นโซนเพิ่มได้โดยอยู่บริเวณทางเดินที่ติดกับห้องน้ำ
ด้านห้องน้ำห้องนี้ไม่ได้แตกต่างจากห้องขนาดกลางห้องอื่นมากนัก โดยมีสเต็ปกั้นโซนเปียกและโซนแห้งชัดเจน ด้านในให้โถสุขภัณฑ์และฝักบัวมาให้
ห้องสุดท้ายเป็นห้องขนาดกลางเช่นเดียวกัน ภายในมีห้องน้ำในตัว กั้นโซนเปียกและโซนแห้งไว้ พร้อมติดตั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือและที่วางผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายไว้ให้ ห้องนี้ก็เป็นห้องที่แบ่งโซนต่าง ๆ อย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย เตียงนอน โต๊ะทำงานหรืออ่านหนังสือ โต๊ะข้างเตียง และตู้เสื้อผ้า ซึ่งห้องนี้แตกต่างจาก 2 ห้องด้านบนตรงที่ไม่มีระเบียงด้านนอก
สรุปรายละเอียดโครงการ
| ชื่อโครงการ |
สราญสิริ ศรีวารี 2 |
| ที่ตั้ง |
เลขที่ 888 หมู่ 2 ตําบลศีรษะจรเข้น้อย อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10570 |
| เจ้าของโครงการ |
บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) |
| แบบบ้าน |
GYPSO
BUTTERCUP
DAISY
CAMELIA
CALENDURA
VERBENA
|
| พื้นที่โครงการ |
83-2-39.70 ไร่ |
| ขนาดที่ดิน |
50 - 140 ตารางวา |
| พื้นที่ใช้สอย |
138 - 280 ตารางเมตร |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
PEACEFUL LAKE
SWIMING POOL
CLUBHOUSE
FISSNESS
CO-WORKING SPACE
KIDS PLAYGROUND
LIV-24
SPORT AREA
DOG PARK
|
| การเดินทาง |
ถนนลาดกระบัง
พระราม 9 เข้ามอเตอร์เวย
ถนนบางนา-ตราดขาออก
|
| สถานที่สำคัญ |
คิง พาวเวอร์ ศรีวารี 5 กม.
มาร์เก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิ 17 กม.
ฟู้ดแลนด์ บางนา 20 กม.
เซ็นทรัล วิลเลจ 20 กม.
โรงเรียนสาธิตนานาชาติ พระจอมเกล้าลาดกระบัง 4.6 กม.
โรงพยาบาลลาดกระบัง 5 กม.
|
| ราคา |
6 - 12 ล้านบาท |
สรุป 5 จุดเด่น
“สราญสิริ ศรีวารี 2”
เป็นอย่างไรกันบ้างกับโครงการ “สราญสิริ ศรีวารี 2” บ้านซีรีส์ใหม่ล่าสุดจากแสนสิริที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้ ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ทำให้รู้สึกถึงความพิเศษทุกครั้งที่กลับบ้าน ด้วยการออกแบบสไตล์ Urban Farmhouse และแรงบันดาลใจการออกแบบจาก Road Trip Journey ที่ผสมผสานกันจนออกมาเป็นสราญสิริ ศรีวารี 2 ที่ให้ฟีลบ้านแบบยุโรปที่ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียวในหุบเขาพร้อมวิวทะเลสาบอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนโครงการไหน พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านที่ออกแบบมาตอบโจทย์และรองรับการใช้งานผู้อยู่อาศัยทุกช่วงวัย อีกทั้งทำเลตั้งโครงการยังเป็นทำเลแห่งศักยภาพทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เดินทางเข้าออกเมืองง่ายไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไม่สะดวก และล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณนี้มากมาย ก่อนทิ้งท้ายขอสรุป 5 จุดเด่นของโครงการสราญสิริ ศรีวารี 2 ไว้ดังนี้
◾ ที่สุดของบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Urban Farmhouse บ้านเป็นสไตล์ใหม่ให้ฟีลเหมือนอยู่ยุโรป จัดเต็ม 2 ชั้น พร้อมพื้นที่การใช้งานได้ทุกส่วนและรองรับการใช้งานทุกช่วงวัย สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์
◾ จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางกว่า 4 ไร่ ขนาดใหญ่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทุกพื้นที่ส่วนกลางเหมือนเดินทางเข้าสู่หุบเขาแห่งความลับใจกลางธรรมชาติที่อุดมไปด้วยทะเลสาบ แม่น้ำลำธาร ดอกไม้นานาพรรณ ให้ลูกบ้านได้ความผ่อนคลายที่มากกว่าโครงการไหน ๆ ไม่ว่าจะวิวทะเลสาบ สวนส่วนกลาง สระน้ำในร่ม ต้นไม้ใหญ่
◾ ระบบความปลอดภัย LIV24 ป้องกัน 3 ชั้น โดดเด่นด้วยฟังก์ชันรักษาความปลอดภัย LIV24 ของแสนสิริที่มีการป้องกัน 3 ชั้น Digital Fence ระบบรั้วป้องกันผู้บุกรุก Analytic System กล้อง CCTV ตรวจจับในจุดอับสายตา และReal Time Guard Tour มั่นใจในทุกความมั่นใจเจ้าหน้าที่ตรวจตราทุก 30 นาที
◾ ปลอดมลพิษอยู่ในพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมน้อย โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่สีเขียว ร่มรื่น เงียบสงบ และมีพื้นที่อุตสาหกรรมล้อมรอบน้อย
◾ เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางพิเศษ ใกล้มอเตอร์เวย์ ไม่ว่าจะเข้าออกเมืองก็เลือกเดินทางได้หลากหลายทั้ง ARL สถานีลาดกระบัง ถนนบางนา-ตราด ทางพิเศษเฉลิมมหานคร หรือถนนมอเตอร์เวย์ ก็เลือกใช้ได้ตามความสะดวก
หากสนใจโครงการสามารถติดต่อได้ตามข้อมูลด้านล่าง
เบอร์ติดต่อ: 1685
Email: cs@sansiri.com
ลงทะเบียน:
https://siri.ly/blpo7WC
แผนที่โครงการ:
https://maps.app.goo.gl/7k5Gy4Cb2RG2Rpon9
