ทำไม? “สุขุมวิท 64” ถึงเป็นทำเลน่าอยู่
Facebook Twitter Email
 
ทำไม? 
“สุขุมวิท 64” ถึงเป็นทำเลน่าอยู่

               ปัจจุบันนี้ทำเลยอดฮิตสำหรับคอนโดฯ ต้องบอกว่ามีหลายที่ แต่จะมีสักกี่ที่กันครับที่เกิด New Project ต่อเนื่อง ทั้งยังโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งทำเลน่าจับตาที่กล่าวมานี้ก็คือ “สุขุมวิท 64”
               หากมองในแง่ของผู้พัฒนา คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องพัฒนาโครงการในทำเลที่เรียกได้ว่ามีการแข่งขันสูง แต่หากมองในแง่ของผู้ซื้ออย่างเรา นี่คือสิ่งที่ดีมาก!! เพราะทางเลือกในการซื้อก็มีมากขึ้น และที่สำคัญ ภายใต้การแข่งขันที่สูงนี้ เราจะได้สิ่งที่ดีที่สุดมาอย่างแน่นอน เพราะหากโครงการไหนไม่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในทำเลนั้นๆ ได้ ก็คงต้องเอ้าท์ไปก่อนเพื่อนอย่างแน่นอน

              และวันนี้… เพจ Inside2home จะพาทุกคนไปเจาะลึกคำถามที่หลายคนสงสัยว่าทำไม? “สุขุมวิท 64” ถึงเป็นทำเลน่าอยู่ เราลองไปหาคำตอบนี้พร้อมๆ กัน

 
“Convenient Travel” 
การเดินทางสะดวก รวดเร็ว
               นี่คงเป็นปัจจัยข้อแรกที่ถูกดึงขึ้นมาเป็นจุดเด่นของทำเลสุขุมวิท 64 เพราะหากวันนี้เราต้องเลือกที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองสักที่ ปัจจัยแรกที่หลายๆ คนมองก็คงเป็นเรื่องของการเดินทางที่สะดวกนั่นเอง ซึ่งทำเลสุขุมวิท 64 นี้เรียกได้ว่าเป็นทำเลแห่งการเดินทาง เสน่ห์ข้อแรกก็คือเชื่อมต่อได้หลายซอย สามารถเลือกเดินทางได้ตามความสะดวก ไม่ว่าจะเชื่อมไปสุขุมวิท 66/1 หรือซอยสุขุมวิท 62 ที่สามารถลัดเลาะออกไปได้หลายเส้นทาง เชื่อมไปยังย่านใกล้เคียงอย่างอ่อนนุช เอกมัย ทองหล่อ หรือจากแยกบางนาวิ่งไปถนนบางนา - ตราด ไปออกถนนศรีนครินทร์และกาญจนาภิเษกได้
               นอกจากนี้ยังเอื้อความสะดวกสำหรับใครที่ต้องเดินทางออกต่างจังหวัดหรือประเทศ เพราะสามารถเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิในเวลาเพียงประมาณ 30 นาทีได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าความสะดวกสำหรับคนใช้รถยนต์ก็คือทางด่วนนั่นเอง โดยสุขุมวิท 64 จะอยู่ใกล้กับจุดขึ้น - ลงทางด่วน 2 เส้นก็คือ ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนบูรพาวิถี
 


“Time Control” 
เชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายสาย ควบคุมได้ทุกเวลาเร่งด่วน
               ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์สำหรับคนเดินทางด้วยรถยนต์เพียงอย่างเดียว เพราะอีกจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ รถไฟฟ้า เป็นอีกตัวเลือกดีๆ สำหรับคนไม่ใช้รถ ซึ่งสุขุมวิท 64 นั้นจะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีปุณณวิถี ในระยะเดินสบายๆ ประมาณ 450 เมตร ซึ่งข้อดีของการอยู่ใจกลางเมืองเช่นนี้ทำให้เส้นรถไฟฟ้ายังสามารถเชื่อมไปยังย่านต่างๆ ได้อีก อย่างการขึ้นรถไฟฟ้าไปลงเอกมัย - ทองหล่อ ได้เพียง 4 สถานี หรืออยากจะนั่งต่อไปโซนพร้อมพงษ์ หรืออโศก ก็สะดวกเช่นกัน เรียกได้ว่าชั่วโมงเร่งด่วนเราไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดเลยครับ เพราะทุกเวลาสามารถ Control ได้
              แล้วใครที่ไม่สะดวกใช้รถไฟฟ้าล่ะ? นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน เพราะช่วงซอยสุขุมวิท 64 นั้นจะมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์, รถเมล์, รถแท็กซี่ ให้บริการตลอด ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเดินทางในระยะไม่ไกล ใช้เวลาเร็ว และค่อนข้างสะดวกมากๆ 

 


“SUKHUMVIT Life Style”
ครบทุกไลฟ์สไตล์
               แค่เดินทางสะดวกอย่างเดียว คงไม่เพียงพอที่จะเป็นคำตอบให้เราได้ว่าทำไมสุขุมวิท 64 ถึงเป็นทำเลน่าอยู่ ซึ่งสิ่งที่จะเป็นคำตอบที่ดีอีกข้อก็คือเรื่องของไลฟ์สไตล์ในย่าน ต้องยอมรับว่าวิถีคนเมืองในปัจจุบันนี้ต่างคนต่างสไตล์ ดังนั้นหากแหล่งอำนวยความสะดวกภายในย่านสามารถตอบโจทย์คนได้เยอะมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นข้อดีมากเท่านั้น


 
               และจุดเด่นของสุขุมวิท 64 ก็คือการเป็นโซนชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งอยากที่หลายคนทราบกันครับว่าย่านนี้เป็นย่านชุมชนที่มีความเป็นอยู่มาค่อนข้างนาน ที่อยู่อาศัยแถบนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องและค่อนข้างเยอะ และนั่นเป็นผลพวงให้เกิดร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์คอมเพล็กที่เป็นศูนย์รวมผู้คนไว้มากมายอย่าง True Digital Park และ 101 The Third Place ซึ่งเป็นศูนย์รวมของนวัตกรรมดิจิทัล และ Startup ทั้งในและต่างประเทศ เปรียบเสมือนแหล่งความรู้ที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และเป็น Community Mall ขนาดใหญ่เพื่อชีวิตคนเมืองในทุกไลฟ์สไตล์ที่ภายในโครงการจะมีส่วนของ Innovative Lifestyle Complex ที่รวบรวมร้านค้าไว้ถึง 200 ร้านค้า
               นอกจากนี้ก็ยังมีห้างกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งย่านไม่ว่าจะเป็น Lotus, Big C รวมถึงตลาดสดสำหรับคุณแม่บ้านพ่อบ้าน และหากขยับออกมาย่านใกล้เคียงกันอีกสักนิดอย่างเอกมัย ก็จะมีห้างหรูอย่าง The EmDistrict เลยไปฝั่งอโศกอีกนิดก็จะมีทั้งห้าง Robinson, Terminal 21 และ Korean Town

 

 
               แต่อีกสิ่งที่จะเข้ามาตอกย้ำการเป็นทำเลน่าอยู่อาศัยก็คือเรื่องของสถานศึกษาและสถานพยาบาล ซึ่งย่านนี้ต้องบอกว่าสถานศึกษามีค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติที่รองรับได้ทั้งกลุ่มคนไทยและครอบครัวของนักลงทุนชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น Anglo Singapore International School, Berkeley International School, รร.บางกอกพัฒนา, เซนต์โยเซฟ บางนา และ St.Andrews International School ส่วนตัวสถานพยาบาลส่วนใหญ่เป็นสถานพยาบาลชั้นนำ มีทั้ง รพ. กล้วยน้ำไท, รพ. สุขุมวิท, รพ. ไทยนครินทร์ และ รพ. ศิครินทร์
 


“การลงทุน”
ตอบโจทย์ด้วยผลตอบแทน 4.9% ต่อปี
               ปัจจุบันนี้สุขุมวิท 64 กลายเป็นอีกทำเลที่น่าจับตามองสำหรับกลุ่มนักลงทุนไปแล้ว ด้วยศักยภาพของระบบโครงข่ายคมนาคมที่เอื้อความสะดวกให้แก่การอยู่อาศัย ทั้งยังตอบรับกลุ่มวัยทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งความเจริญที่เข้ามาภายในย่านเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่าสุขุมวิท 64 กลายเป็นทำเลทองของกลุ่มนักลงทุน
 
 
 
               ซึ่งข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและพัฒนา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้ทำการสำรวจพื้นที่กรุงเทพฯ เกี่ยวกับผลตอบแทนในการปล่อยเช่าคอนโดฯ ก็ยังชี้ให้เห็นว่าทำเลกรุงเทพฯ ชั้นในอย่างโซนเพลินจิต ชิดลม สีลม สาทร และสุขุมวิท เป็นอีกทำเลน่าลงทุนที่ให้ผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 4.9% ซึ่งค่าเช่าเฉลี่ยในโซนนี้จะอยู่ที่ 25,000 -  35,000 บาท/เดือน ซึ่งแน่นอนว่าการมองหาโครงการดีๆ ในย่านนี้ไว้สำหรับปล่อยเช่าลงทุนในระยะยาวก็ควรจะต้องเป็นโครงการที่สเปกดี ฟังก์ชันพร้อมตอบโจทย์และให้ความคุ้มค่าแก่ผู้อยู่อาศัยมากที่สุด และหนึ่งในทำเลที่น่าสนใจในทำเลสุขุมวิท 64 ที่เราอยากแนะนำในวันนี้ก็คือคอนโดฯ Oasis ใจกลางเมือง อย่าง “Skyrise Avenue Sukhumvit 64” นั่นเอง
 


“Skyrise Avenue Sukhumvit 64”

คอนโดฯ Oasis ใจกลางเมือง ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์
              โครงการ “Skyrise Avenue Sukhumvit 64” เป็นโครงการ Mixed Use บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 22 ไร่ และยังเป็น Project ที่ใหญ่ที่สุดในย่านสุขุมวิท 64 ด้วยคอนเซ็ปต์น่าสนใจอย่าง “Harmonic Living Arise” สมดุลชีวิตใหม่ที่ตอบสนองให้การทำงานของคุณคล่องตัวขึ้น ไปพร้อมกับการใช้ชีวิตที่น่ารื่นรมย์ในพื้นที่ธรรมชาติกว้างขวางภายในโครงการ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Skyline Tower ในมหานครนิวยอร์ค ซึ่งโครงการนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกและนักออกแบบชื่อดังของเมืองไทยอย่างอาจารย์ด้วง ดวงฤทธิ์ บุญนาค
               โครงการเป็นอาคารสูง 4 อาคาร มีตั้งแต่ 46 ชั้น, 48 ชั้น 2 อาคาร และ 49 ชั้น จำนวนยูนิตทั้งหมด 1,961 ยูนิต (เฟส 1) ส่วนห้องพักมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ รองรับการใช้ชีวิตที่หลากไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น...


◼️ 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 28 - 35 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 - 55 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตร.ม.
◼️ 3 Bedroom 3 Bathroom ขนาด 73 - 87 - 90 - 100 ตร.ม.
◼️ ห้อง Loft ขนาด 35-55 ตร.ม.


               ซึ่งโครงการขายห้องรูปแบบ Fully Fitted ที่จะได้พร้อมชุดครัว ตู้เสื้อผ้า แบบมาตรฐานโครงการ และทุกห้องยังเป็นประตูแบบ Digital Door Lock แบรนด์ Samsung พร้อมกับ High Gloss Hob & Hood แบรนด์ Teka ส่วนตัวสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทางโครงการให้เป็น Kohler พร้อมเครื่องปรับอากาศ Daikin ซึ่งทางโครงการมีห้องตัวอย่างด้วยกัน 4 แบบดังนี้...
 
               


ความเป็นส่วนตัวที่หาได้ยาก 
เพียง 11 ยูนิตต่อชั้น
               เรื่องความเป็นส่วนตัวสำหรับการอาศัยอยู่คอนโดฯ เป็นเรื่องสำคัญครับ ซึ่งสัดส่วนของจำนวนห้องพักต่อชั้นของโครงการสูงสุดเพียงแค่ 11 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น และนอกจากนี้แล้ว ชั้นที่อยู่สูง 3 ชั้นบนสุดจะมีเพียง 5 ยูนิตต่อชั้น เรียกได้ว่าเป็น Layout ห้องขนาดใหญ่แบบ 3 ห้องนอน ที่มาพร้อมความเป็นส่วนตัวสุดๆ
               ซึ่งการออกแบบส่วนที่พักนั้น ทางโครงการจะเน้นเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นหลัก โดยส่วนกลางทั้งหมดจะดีไซน์ไว้บริเวณ On Ground โดยภายในตึกจะมีแค่โซน Library ให้เด็กๆ ได้มาอ่านหนังสือ หรือใช้รับแขกเท่านั้น เพราะพื้นที่ของแต่ละตึกนั้นจะเน้นเรื่อง Security แต่ละชั้นแต่ละห้องนั่นเอง

 


พื้นที่สีเขียว 40% 
แหล่ง Oasis ชั้นดีของคนเมือง
               ความโดดเด่นของโครงการที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือพื้นที่สีเขียวที่มีมากถึง 40% ของพื้นที่รวมโครงการ เรียกได้ว่าเป็น Oasis ชั้นดีของคนเมืองที่ไม่ต้องเปลืองเวลาออกไปหาพื้นที่ฟอกปอดไกลถึงต่างจังหวัด เพราะที่นี่เหมือนมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ไว้ในโครงการแล้ว โดยต้นไม้ภายในโครงการมีค่อนข้างหลากหลายพรรณ รวมแล้วประมาณ 100 ชนิด เรียกได้ว่าความเป็นสีเขียวจะช่วยโอบล้อมลูกบ้านอย่างเราๆ ที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเมืองและทำงานหนักกลับมาแต่ละวัน เราก็ยังได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เรียกได้ว่ามีพื้นที่สำหรับชาร์จพลังงานชีวิตได้อย่างเต็มที่เลย
               สำหรับส่วนกลางทั้งหมดของโครงการจะอยู่ที่ชั้นล่าง และแยกออกจากตัวที่พักอาศัยชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างแน่นอน โดยส่วนกลางที่นอกจากพื้นที่สีเขียวกว่า 40% แล้ว ทางโครงการยังจัดเต็มส่วนอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space, Podcast Station, Laundry Room, Fitness, Family Area, Sauna Room, Basketball, Co-Kitchen Space และ Swimming Pool ขนาด 50 x 10 เมตร เรียกได้ว่ารองรับได้ครบทุกไลฟ์สไตล์จริงๆ
 

ที่จอดรถ 46% ไม่รวมซ้อนคัน
               เมื่อเรื่องพื้นที่สีเขียวเป็นสิ่งที่สำคัญและจุดเด่นของโครงการแล้ว หลายคนอาจจะเป็นกังวลว่าด้านหน้าโครงการคงเต็มไปด้วยรถยนต์ที่จอดอยู่ บดบังทัศนียภาพไป แต่ไม่ใช่เลย เพราะโครงการได้จัดสรรพื้นที่จอดรถที่มีถึง 46% ยังไม่รวมซ้อนคัน ไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งที่จอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดินจำนวน 2 ชั้น ถือว่าเป็นข้อดีของลูกบ้านมาก เพราะจะช่วยลดมลภาวะทางสายตา ทำให้เราสามารถมองเห็นความสวยงามของสวนขนาดใหญ่เมื่อมองลงมาจากอาคารที่พักอาศัยได้

               โครงการ “Skyrise Avenue Sukhumvit 64” ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 64/2  โซนชิคใหม่บนเส้นสุขุมวิท อยู่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 64/2 ประมาณ 120 เมตร และอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถีประมาณ 450 เมตร ซึ่งทำเลนี้เป็นส่วนต่อขยายมาจากทองหล่อ อ่อนนุช ทำให้ตัวโครงการเหมือนเป็นตัวกลางเชื่อมต่อทำเลที่พัฒนาแล้วอย่างทองหล่อ อ่อนนุช ไปยังทำเลที่กำลังพัฒนาเป็น New CBD อย่างบางนา ซึ่งไม่ง่ายเลยที่เราจะหาทำเลที่ลงตัวกับการอยู่อาศัยและยังตอบโจทย์ในอีกหลายๆ ด้านเช่นนี้ได้ ซึ่งหากว่าใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกไลฟ์สไตล์บนทำเลที่เรียกได้ว่าเป็น “ทำเลน่าอยู่” เช่นนี้ โครงการ “Skyrise Avenue Sukhumvit 64” จะเป็นอีกโครงการน่าสนใจที่จะเข้าไปอยู่ในลิสต์ของคุณ


ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม : คลิก
หรือสอบถามรายละเอียดโครงการได้ที่....
          โทร. : 02-026-6888 กด 7
          Line@ : @Skyrise_Skv64
          Facebook Fanpage : Skyrise Avenue SKV64
พิกัดเยี่ยมชมโครงการ : คลิก



 

ไอเดียแต่งบ้าน