"GOLDEN NEO สุขสวัสดิ์-พระราม 3" ชีวิตติดเมือง เพียง 2 กิโลขึ้นทางด่วน 15 นาที ถึง CBD สาทร
Facebook Twitter Email
 

สิ่งที่คนจะเลือกซื้อบ้านสักหลังมักจะมองหาคือ “การเดินทาง ความสะดวกสบาย และแบบบ้านที่รองรับการใช้งานของทุกคนในครอบครัว” สามองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การซื้อบ้านสมบูรณ์แบบและตอบโจทย์มากที่สุด




ถ้าหากจะพูดถึงทำเลที่มีความเจริญอย่างต่อเนื่อง ฝั่งธนฯ ถือเป็นหนึ่งในทำเลที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะถนนสุขสวัสดิ์ที่มีความเจริญอย่างก้าวกระโดดจากเมกะโปรเจกต์ที่เข้ามา โดยเฉพาะด้านการเดินทางช่วยเชื่อมโยงสู่ย่านสำคัญได้ง่ายสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เหมาะกับการอยู่อาศัย สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านบนทำเลนี้โครงการ โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 ก็เป็นหนึ่งโครงการที่คุ้มค่าและรองรับทุกการใช้ชีวิต ตอบโจทย์ทั้งด้านทำเลและมีฟังก์ชันที่น่าสนใจ เรียกว่า ครบ จบ วันนี้ Inside2home จะพามาดูกันว่า โครงการและย่านนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ตามไปชมกัน!



อย่างแรกคือการเดินทางที่สะดวกสบายทั้งปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบนถนนสุขสวัสดิ์มีเมกะโปรเจกต์ที่สำคัญคือการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ เชื่อมต่อฝั่งธนฯ และฝั่งพระนครเข้าด้วยกัน โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้มีทั้งหมด 17 สถานี แบ่งเป็นสถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี ซึ่งสถานียกระดับจะวิ่งตามแนว ถ.สุขสวัสดิ์ พาดผ่าน 2 พื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตของด้านต่าง ๆ อันน่าจับตามองในอนาคตคือ สถานีบางปะกอก และสถานีประชาอุทิศ โดยมีกำหนดเสร็จในปี 2570 นั่นหมายความว่าบนทำเลสุขสวัสดิ์จะมีความพร้อมด้วยการเดินทางที่หลากหลาย ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วนเฉลิมมหานคร ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ถนนวงแหวนรอบนอก และ ถ.สุขสวัสดิ์ ก็ยังสามารถเดินทางลัดเลาะออกถนนสายสำคัญ ๆ ได้อีกมากมาย อาทิ ถ.พระราม 2 ถ.ประชาอุทิศ ถ.ราษฎร์บูรณะ ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน ถ.นครเขื่อนขันธ์ รวมไปถึงการเดินทางเชื่อมฝั่งสมุทรปราการอีกด้วย หรือเข้าสู่ใจกลางเมืองโซน CBD ก็ง่ายและรวดเร็ว



นอกจากนี้ยังมีการขยายทางด่วน พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก (ในอนาคต) เป็นการเพิ่มทางเลือกการเดินทางเข้าไปอีก ทำให้การเข้าออกเมืองรวดเร็วและสะดวกมากกว่าเดิม สามารถเชื่อมโยงการใช้ชีวิตบนถนนสุขสวัสดิ์ไปยังย่านต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะไปช็อปปิงในย่านพระราม 2 พระราม 3 ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล พระรามสอง บิ๊กซี พระรามสอง และเทอร์มินอล 21 พระรามสาม หรือไปสถานพยาบาลต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 
อินเตอร์เนชั่นแนล ถ้าขยับเข้าไปอีกหน่อยก็ถึงย่านสาทร-พระราม 3 แหล่งธุรกิจ ย่านช็อปปิง และที่เที่ยวมากมายก็พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์ของเราเช่นเดียวกัน   

◾ โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์
◾ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
◾ โรงพยาบาลนครธน 
◾ เดอะ ไบรท์ พระรามสอง
◾ เซ็นทรัล พระรามสอง
◾ เทอร์มินอล 21 พระรามสาม
◾ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
◾ BASIS International School



และแน่นอนว่าฟังก์ชันก็เป็นสิ่งที่ต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวด้วยเช่นกัน ยังเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ ด้วย โครงการโกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 พัฒนาจากดิเวลลอปเปอร์คุณภาพอย่าง Frasers Property เน้นความคุ้มค่า ทั้งในแง่ของด้านทำเลและการอยู่อาศัย พัฒนาแบบบ้านให้มีความน่าสนใจ โดยมีจุดเด่นด้านพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันการใช้งานถึง 4 ห้องนอนขนาดใหญ่ มีพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ห้องพระชั้นลอยที่ไม่กินพื้นที่บ้าน และฟังชั่นเด่น Glass House laundry ห้องซักล้างแบบกระจกรับแสงรอบด้านเหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังขยับขยายสมาชิกในบ้าน บน 4 เส้นทางเข้าออกโครงการ 5 เส้นทางเชื่อมต่อใจกลางเมืองนั่นเอง



สำหรับโครงการ Golden Neo Suksawat - Rama 3 (โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์ -พระราม 3) ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพอย่างสุขสวัสดิ์ เข้าออกใจกลางเมืองง่าย ล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งไลฟ์สไตล์ครบครัน ตั้งอยู่ภายใน ซ.สุขสวัสดิ์ 30 แยก 10 เข้าจาก ถ.สุขสวัสดิ์ ได้เลย นอกจากนี้ก็ยังสามารถเข้าจาก ถ.เลียบทางด่วนกาญจนาภิเษก เข้าสู่ ถ.ประชาอุทิศ หรือจาก ถ.พระราม 2 เข้าสู่ ซ.พุทธบูชา 39 ได้เช่นกัน การเดินทางเข้าเมืองสามารถเดินทางได้ทั้งทางปกติหรือทางด่วน ไม่ว่าจะเป็นทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ด่านสุขสวัสดิ์) ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (ด่านบางครุ 2) และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม สู่ย่านพระราม 3 - สาทร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที* ในอนาคตเมื่อทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก เปิดใช้งานก็จะทำให้การเดินทางง่ายขึ้นอีก รวมถึงหากรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้แล้วเสร็จ จากโครงการจะเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น โดยใกล้กับสถานีประชาอุทิศ

การเข้าออกโครงการ
◾ ถนนพุทธบูชา  1.7 กม.
◾ ถนนพระราม 2  3 กม.
◾ ถนนประชาอุทิศ  3.4 กม.
◾ ถนนสุขสวัสดิ์ (ซ.สุขสวัสดิ์ 26)  3.6 กม.

การเข้าออกเมือง
◾ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสุขสวัสดิ์
◾ ทางพิเศษ พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก (ในอนาคต)
◾ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)
◾ สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม
◾ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (สถานีบางปะกอก,สถานีประชาอุทิศ) กำหนดเสร็จปี 2570

สถานพยาบาล
◾ โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ 4.5 กม.
◾ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล 6.2 กม.
◾ โรงพยาบาลนครธน 8.4 กม.
◾ โรงพยาบาลบางมด 10 กม.

ไลฟ์สไตล์
◾ เดอะ ไบรท์ พระรามสอง 5.7 กม.
◾ โฮมโปร พระรามสอง 6.9 กม.
◾ เซ็นทรัล พระรามสอง 8 กม.
◾ บิ๊กซี พระรามสอง 8 กม.
◾ เทอร์มินอล 21 พระรามสาม 10 กม.

สถานศึกษา
◾ รร.สารสาสน์สุขสวัสดิ์ 1.8 กม.
◾ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 3.2 กม.
◾ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี 6.6 กม.
◾ BASIS International School 8.2 กม.

ตอนนี้จะพามาชมภายในโครงการโกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 ว่าดีไซน์และบ้านในโครงการมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกัน!

 

…ทุกครั้งที่โมเมนต์ความพิเศษเกิดขึ้นในชีวิต เรามักจะรู้สึกมีความสุขเสมอ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดมาเพื่อเป็นของตัวเราเอง เหมือนกับการซื้อบ้านดี ๆ สุดแสนจะพิเศษสักหลังที่ถูกสร้างมาไว้เพื่อเราตั้งแต่แรก  




โครงการ Golden Neo Suksawat - Rama 3  (โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์ -พระราม 3) โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด โดยผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยอย่าง Frasers Property (เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) พยายามที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เข้าถึงความต้องการของครอบครัว ไม่ได้ยกระดับแค่ภาพลักษณ์ที่สวยงาม แต่ยังรวมไปถึงฟังก์ชันในการใช้งานที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแท้จริงภายใต้บ้านที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน สังคมคุณภาพภายในโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และสิ่งที่สำคัญคือทำเลการเดินทางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ใกล้สังคมการใช้ชีวิต และเป็นทำเลที่ทรงคุณค่าในอนาคต
 
พาชม 
โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 




คราวนี้เข้าสู่ตัวโครงการกันบ้าง จากถนนหน้าโครงการเข้าสู่ถนนเมนโครงการกว้างขวาง สองข้างทางปลูกต้นไม้ไว้อย่างร่มรื่น ประมาณ 50 เมตร ถึงซุ้มประตูโครงการขนาดใหญ่อลังการ มีประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติกั้นโซนภายนอกกับโซนที่อยู่อาศัย ทางเข้าออกแยกช่องสำหรับลูกบ้านและผู้ที่มาติดต่อ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการสัญจร ตรงกลางจะเป็นป้อม รปภ. ตรวจตราและดูแลรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม. มีระบบ Smart Security และระบบ Easy Pass ที่ทันสมัย นอกจากนี้ก็ยังมีกล้อง CCTV อยู่ตรงทางเข้าออกโครงการ





ซุ้มประตูขนาดใหญ่มีสถาปัตยกรรมซุ้มโค้งแบบยุโรปคลาสสิก รวมถึงวัสดุตกแต่งอย่างหินธรรมชาติ โคมไฟ เหล็กดัด ที่มีกลิ่นอายของยุโรปตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ส่วนถนนเมนโครงการกว้างถึง 12 เมตร ทำให้การสัญจรภายในโครงการง่าย คล่องตัว อีกทั้งถนนซอยกว้าง 9 เมตร และมีบ้านในซอยมากที่สุดเพียง 14 หลัง จึงค่อนข้างสงบและให้ความเป็นส่วนตัว

 
FACILITIES ​
พื้นที่ส่วนกลาง


ผ่านซุ้มประตูโครงการเข้ามาภายในโครงการ จะเจอกับวงเวียนน้ำพุ ฉากหลังเป็นคลับเฮาส์สไตล์ยุโรป แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของอิตาลี จัดสวนยุโรปหน้าโครงการให้ดูกลมกลืนกับบรรยากาศโดยรวม พร้อมเพิ่มกิมมิกด้วยรูปปั้นกระต่ายน่ารัก ๆ เพิ่มความอบอุ่นเฟรนด์ลี่แบบวิลเลจในแถบชานเมือง ส่วนกลางภายในโครงการประกอบไปด้วย
◾ สระว่ายน้ำระบบเกลือ
◾ ฟิตเนส
◾ คลับเฮาส์
◾ สวนสาธารณะ





คลับเฮาส์จะเป็นหมู่อาคารชั้นเดียว แยกโซนชัดเจน สระว่ายน้ำจะอยู่ตรงกลาง มองจากถนนไม่เห็นทำให้เป็นส่วนตัวพอสมควร 
ส่วนบรรยากาศโดยรอบปลูกไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่น ตัวสระว่ายน้ำใช้ระบบเกลือ ขนาด 20 x 5 ม. ว่ายออกกำลังกายแบบจริงจังได้ ในสระจะแยกความลึกของเด็กและผู้ใหญ่



ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นครบ ทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง ผนังเป็นกระจกสามารถเทควิวสระว่ายน้ำ เพิ่มความสดชื่นระหว่างการออกกำลังกาย





ขยับออกมาจากคลับเฮาส์ บริเวณกลางโครงการจะมีสวนอีกหนึ่งจุด ภายในสวนจะมีทั้งสนามเด็กเล่น มุมพักผ่อน และทางเดินภายในสวน สามารถพาลูกหลานมาวิ่งหรือเดินเล่นยามเช้าได้




นอกจากนี้ยังมีศาลาพักผ่อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Crystal Palace สถาปัตยกรรมเหล็กหล่อและกระจกศิลปะในสมัยวิกตอเรีย อยู่ที่ไฮด์พาร์ค กรุงลอนดอน กลมกลืนอยู่ท่ามกลางสวนสไตล์ยุโรป


 
แบบบ้านโครงการ
Golden Neo Suksawat - Rama 3


หลังจากที่ไปดูส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ Golden Neo Suksawat - Rama 3 (โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์ -พระราม 3) กันมาแล้ว มาถึงส่วนของที่พักอาศัยกันบ้าง ที่นี่จะเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น แบบบ้านทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ออกแบบและได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านสไตล์อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นฟาซาด หินประดับ บัวประดับ เหล็กดัด มีกลิ่นอายความเป็นยุโรปยุคคลาสสิกและมีความร่วมสมัย โดยฟังก์ชันภายในบ้านตอบโจทย์การอยู่อาศัยทั้งครอบครัวเริ่มต้นไปจนถึงครอบครัวขยาย จัดเต็มถึง 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถแบบไม่เบียด แบบบ้านมีดังนี้

แบบบ้าน LEICESTER (เลสเตอร์) พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แบบบ้าน NEWCASTLE (นิวคาสเซิล) พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมฟังก์ชันพิเศษ Glass House Laundry
แบบบ้าน LONDON (ลอนดอน) พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมฟังก์ชันพิเศษ Glass House Laundry และห้องพระ
แบบบ้าน WINCHESTER (วินเชสเตอร์) พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมฟังก์ชันพิเศษ Glass House Laundry และห้องพระ

และวันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง Newcastle และ London ภายในบ้านจะมีอะไรฟังก์ชันใดน่าสนใจบ้างเหมาะกับไลฟ์สไตล์ไหน ตามไปชมกันเลย

 
แบบบ้าน NEWCASTLE
พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม.



เริ่มกันที่แบบบ้าน Newcastle นีโฮโฮม 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และยังแยกออกเป็น Living Area Dining Area ห้องครัว ห้องซักล้างสไตล์ Glass House และ Multipurpose Area ที่ชั้นบน เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้นหรือครอบครัวขยาย



ตัวบ้านจะมีพื้นที่สีเขียวโดยรอบ ซึ่งโครงการก็ทำช่องแสงเพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันกับธรรมชาติโดยรอบ ยังมีการจัดสวนมาตรฐานมาให้ทุกหลัง และออกแบบประตูทางเข้า 2 ทาง เพื่อสามารถที่จะเลือกเลี่ยงเข้าไปในจุดที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และอีกฟังก์ชันที่โดดเด่นคือ ห้องซักล้างสไตล์ Glass House สามารถตากผ้าในร่มโดยยังคงได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่




ตัวบ้านออกแบบเกือบเต็มพื้นที่ แต่ยังมีพื้นที่สวนให้เราได้ออกแบบพื้นที่สีเขียวเป็นของตัวเอง สามารถจอดรถได้ 2 คัน โดยพื้นที่จอดรถจะเป็นเฉลียงยื่นออกมาช่วยให้รถไม่ต้องจอดตากแดด นอกจากนี้ยังมีประตูเชื่อมเข้าออกบ้านอีกทางซึ่งมีข้อดีคือ เวลาแขกมาบ้านสามารถเดินเลี่ยงเข้าอีกทางได้โดยไม่ต้องเข้าประตูหน้า



ด้านข้างบ้านตกแต่งเป็นสวนยุโรปและมีพื้นที่นั่งเล่นเป็นไอเดีย ซึ่งเนื้อที่ด้านข้างตามมาตรฐานโครงการให้มาประมาณ 2 เมตร



ประตูเข้าได้ถึง 2 ทาง คือจากพื้นที่จอดรถ และผ่านทาง Living Area ข้อดีคือเราสามารถเลี่ยงเดินผ่านเวลาที่มีแขกมาเยือนที่บ้าน หรือเวลาซื้อของเข้าบ้านแล้วใช้ประตูจากที่จอดรถลัดเข้าห้องครัวได้เลย และสังเกตได้เลยว่าโครงการออกแบบให้บ้านมีช่องแสงเยอะ เพื่อจะดึงแสงธรรมชาติเข้ามาให้บ้านทำให้บ้านดูโล่งสบาย โดยเลือกติดตั้งเป็นกระจกเขียวตัดแสง เพื่อช่วยกรองแสง และทำให้บ้านเย็นขึ้น แอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไป





คราวนี้เข้ามาภายในบ้านกันบ้าง เปิดประตูเข้ามาจะเจอ Living Area ก่อนเป็นลำดับแรก แต่สำหรับบ้านมาตรฐานพื้นที่นี้จะออกแบบแบบ Open Plan สามารถจัดวางมุมได้ตามไลฟ์สไตล์ ซึ่งบ้านตัวอย่างโซนแรก Living Area มีพื้นที่ขนาดที่วางโซฟาได้ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางวางของ ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามบิวท์อินชั้นวางของ พร้อมยึดทีวีขนาด 40-50 นิ้ว เข้ากับผนัง ซึ่งเป็นระยะที่ดูทีวีกำลังสบายตา ส่วนความสูงจากพื้นถึงเพดานชั้นล่างอยู่ที่ 2.65 เมตร ประกอบกับทุกๆ มุมจะมีหน้าต่างประตูบานกว้าง ทำให้โซนนี้โปร่งสบาย เหมาะจะเป็นมุมนั่งเล่นของครอบครัวหรือต้อนรับแขกคนสนิท



ถัดมาจะเป็นโซนรับประทานอาหาร (Dining Area) มีประตูที่เชื่อมต่อกับสวนด้านข้าง ส่วนพื้นที่ใช้สอยสามารถจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ขนาด 6 ที่นั่งได้พอดี มีมุมให้เทควิวภายนอกแบบรอบด้าน แถมยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้บิวท์อินเฟอร์นิเจอร์เพิ่มได้ หรือทำเป็น Pantry สำหรับเตรียมอาหาร หรือมุมชงกาแฟเสิร์ฟในช่วงเช้าก็ได้





ภาพสวนข้างบ้าน โครงการตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น แต่ก็จะมีการจัดสวนตามมาตรฐานและสามารถต่อเติมเพิ่มได้ ซึ่งก็แล้วแต่แปลงที่ดินนั้นด้วย




เมื่อเดินตรงมาจาก Dining Area จะเจอห้องนอน (Bedroom 4) ที่อยู่ตรงข้ามห้องน้ำและประตูทางออกบริเวณลานจอดรถตามแปลนบ้าน ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้กำลังพอดี โดยเหลือพื้นที่ด้านข้างและปลายเตียงไว้ให้บิวต์อินตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน และโต๊ะวางของได้ โดยห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน ไว้สำหรับผู้สูงวัย และฟังก์ชันอื่น ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย





สำหรับห้องน้ำด้านล่างจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน โดยภายในแยกโซนเปียก-แห้งชัดเจน สุขภัณฑ์ในห้องนำใช้แบรนด์ kohler โดยโครงการจะให้ห้องน้ำทั้งหมดตามภาพ



ด้าน Kitchen Room อยู่ติดกับโซนซักล้าง (Glass House laundry) พื้นที่ครัวที่ให้มาค่อนข้างกว้าง โดยโครงการได้เตรียมระบบท่อน้ำไว้รองรับการใช้งานฟังก์ชันห้องครัว ซึ่งสามารถบิวต์อินชุดครัวเพิ่มได้




และอีกไฮไลต์เด่นของแบบบ้านนี้คือ Glass House laundry หรือโซนซักล้างที่ถูกออกแบบมาให้มีกระจกใสล้อมรอบ ซึ่งข้อดีคือสามารถตากผ้าในร่มได้โดยไม่ต้องเรื่องฝน เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาในสมัยนี้





โครงสร้างของบันไดเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ท็อปด้วยไม้ ช่วยเรื่องความแข็งแรง และทางโครงการยังได้เตรียมระบบสายไฟที่รองรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Fiber Optic) ไว้ให้แล้ว




โถงด้านบนเป็นโซนอเนกประสงค์ (Living Area 2) ที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.7 เมตร โครงการให้ไอเดียโซนนี้เป็นพื้นที่ทำงาน ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามการใช้งาน เช่น มุมอ่านหนังสือ ดูหนัง เล่นเกม หรือ Living Area ที่รองรับความเป็นส่วนตัว





ห้อง Master Bedroom เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดโดยมาพร้อมกัลห้องน้ำในตัว ซึ่งสามารถวางเตียง King Size ได้โดยที่ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างและปลายเตียงค่อนข้างเยอะ สามารถบิวต์อินเป็น Walk in Closet วางโต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางโทรทัศน์ได้





สำหรับห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกัน (ฺBedroom 2) ด้านในมีห้องน้ำที่เป็น Double Access สามารถวางเตียงขนาด 3.5-5 ฟุตได้ โดยที่ยังมีพื้นที่ด้านข้างเหลือ สำหรับวางเป็นโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือ และตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติมได้อีก





ห้องน้ำชั้น 2 เป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้อง 2-3 โดยภายในกั้นโซนแห้งและโซนเปียกชัดเจน ด้านในห้องน้ำจะทำชั้นวางผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสายดินรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ด้วย



และห้องสุดท้าย (Bedroom 3) เป็นห้องที่วางเตียงขนาด 3.5 - 5 ฟุตได้ โดยห้องนี้สามารถรองรับการขยับขยายในอนาคต


 
แบบบ้าน LONDON
พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม.



ขยับไปชมบ้านไทป์ใหญ่กันบ้าง แบบบ้าน London มีพื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมห้องครัว Glass House Laundry Family Area ชั้นบน และห้องพระ ฟังก์ชันอาจจะดูไม่ได้แตกต่างกันมากแต่บ้านไทป์นี้ก็จะมีพื้นที่ใช้สอยแต่ละห้องที่ใหญ่ขึ้น และมีห้องพระเพิ่มขึ้นมาด้วย



โดยจุดเด่นของบ้าน คือ 4 ห้องนอน กลาสเฮ้าส์ ชั้นลอย (ห้องพระ) และ Living Area ชั้น 2




พื้นที่จอดรถกว้างขึ้น สามารถจอดรถได้ 2 คัน ตรงที่จอดรถจะร่มบางส่วนโดยมีเฉลียงยื่นออกมา ช่วยกันแสงแดดและฝนสาดที่จะปะทะตัวบ้านโดยตรง และบริเวณนี้โครงการยังติดตั้งปลั๊กไฟไว้สำหรับใช้งานต่าง ๆ



สวนข้างบ้านโครงการตกแต่งเป็นศาลานั่งเล่นพักผ่อน ซึ่งเป็นเพียงไอเดียการตกแต่งเท่านั้น ส่วนสวนมาตรฐานจะกว้างประมาณ 2 เมตร



เข้ามาภายในบ้านส่วนที่เชื่อมต่อกับประตูทางเข้าหลัก จัดเป็นโซนรับแขก วางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง หรือโซฟา L-Shape ก็ได้ ผนังรอบด้านเป็นกระจกบานใหญ่ ช่วยดึงแสงภายนอกเข้ามาด้านใน ทำให้บ้านรู้สึกโปร่งสบาย ส่วนระยะห่างระหว่างทางเดิน ค่อนข้างกว้าง ขนาด 2 คน เดินสวนกันได้สบาย ๆ





พื้นที่ถัดมาเป็นโซนรับประทานอาหาร หรือ Dining Area ให้ความรู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ส่วนขนาดพื้นที่รองรับโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมที่นั่งมากกว่า 6 ที่นั่ง ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้าง แบ่งทำเป็นเคาน์เตอร์หรือมินิบาร์เพิ่มได้อีก ไว้สำหรับปาร์ตี้กับครอบครัวและเพื่อน พร้อมกับการเทควิวสวย ๆ รอบบ้าน





ถัดมาจะเจอกับห้องนอนชั้นล่าง (Bedroom 4) สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ถึงขนาด 5 ฟุตได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมกันนี้ยังมีพื้นที่เหลือให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ครบ ไฮไลต์จุดนึงที่น่าสนใจคือ ช่องกระจกแบบเข้ามุม ข้อดีคือช่วยดึงแสงจากด้านนอกเข้ามาภายในห้อง ทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น





ห้องน้ำชั้นล่างแยกโซนเปียกและแห้ง อยู่ใกล้ห้องนอนล่างทำให้สะดวกต่อการใช้งาน ห้องครัว (Kitchen) เชื่อมต่อกับ Glass House Laundry แยกเป็นสัดส่วน ซึ่งพื้นที่ค่อนข้างใหญ่และกว้าง



ภายในห้องครัวโครงการตกแต่งไว้เป็นไอเดีย ทำเคาน์เตอร์เป็นแบบ L-Shape มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่





ถัดมาจะเป็นห้องซักล้างแบบ Glass House ลักษณะเหมือนแบบบ้าน Newcastle



ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงกลางและ Multipurpose Area ซึ่งโครงการตกแต่งเป็นมุมนั่งพักผ่อน ความแตกต่างสำหรับบ้านไทป์นี้ คือ มีพื้นที่ชั้นลอยสำหรับวางหิ้งพระ หรือนั่งสมาธิก็ได้เหมาะมาก ๆ โดยเป็นจุดที่สูงสุดของบ้านด้วย มากกว่านั้นคือไม่ต้องเสียพื้นที่การใช้งานห้องนอน






Multipurpose Area ตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่น ความสูงจรดเพดานประมาณ 2.7 เมตร ทำให้บรรรยากาศดูอบอุ่นน่าใช้งาน นอกจากเป็นทำเป็นโซนนั่งเล่นแล้ว ยังทำเป็นมุมดูหนัง พื้นที่ทำงาน หรือพื้นที่พักผ่อนก็รองรับได้หมด





ต่อกันที่ห้องไฮไลต์กันบ้าง ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ที่สุดในแบบบ้าน พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวพื้นที่ใช้สอยสามารถแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนในระยะที่กำลังพอดี พื้นที่เตียงนอน วางเตียง King Size พร้อมพื้นที่ข้างเตียงกว้าง ห้องนี้จะมีระเบียงเชื่อมต่อออกไปด้านนอกได้ แต่จะเหมาะที่จะวางกระถางดอกไม้เพื่อประดับเพิ่มบรรยากาศความสดชื่นให้กับห้องนอนและหน้าบ้าน




ส่วนห้องนอนที่ 2 และ 3 มีห้องน้ำในตัว ส่วนขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกัน เหมาะที่จะเป็นห้องนอนของลูก ๆ หรือถ้าสมาชิกในบ้านไม่มาก ก็เปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือห้องออกกำลังกายแทนได้เลย


 
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ Golden Neo Suksawat - Rama 3
โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์ -พระราม 3
เจ้าของโครงการ Frasers Property Home
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด
ที่ตั้ง ซ. สุขสวัสดิ์ 30 แยก 10 ต.บางประกอก อ.ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะโครงการ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น
แบบบ้าน ◾ แบบบ้าน LEICESTER พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม.
◾ แบบบ้าน NEWCASTLE พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม.
◾ แบบบ้าน LONDON พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม.
◾ แบบบ้าน WINCHESTER พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
พื้นที่โครงการ 40-1-11.4 ไร่
จำนวนบ้าน 115 ยูนิต (เฟส1)
สิ่งอำนวยความสะดวก ◾ คลับเฮาส์
◾ สระว่ายน้ำ
◾ ฟิตเนส
◾ สวนสาธารณะ
◾ ระบบรักษาความปลอดภัย
การเดินทาง ◾ ถนนพุทธบูชา
◾ ถนนพระราม 2
◾ ถนนประชาอุทิศ
◾ ถนนสุขสวัสดิ์ (ซ.สุขสวัสดิ์ 26)
◾ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสุขสวัสดิ์
◾ ทางพิเศษ พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก (ในอนาคต)
◾ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์)
◾ สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม
◾ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สถานีประชาอุทิศ (เสร็จปี 2570)
สถานที่ใกล้เคียง ◾ เทอร์มินอล 21 พระราม 3
◾ เซ็นทรัล พระราม 3
◾ เซ็นทรัล พระราม 2
◾ เดอะไบร์ท พระราม 2
◾ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
◾ โรงพยาบาลบางมด
◾ โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์
◾ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
◾ รร.สารสาสน์สุขสวัสดิ์
◾ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัยธนบุรี
ค่าส่วนกลาง 42 บาทต่อตารางวา
ราคา 7-9 ล้านบาท
 
สรุป 5 จุดเด่น
Golden Neo Suksawat - Rama 3



เป็นอย่างไรกันบ้างกับโครงการ Golden Neo Suksawat - Rama 3 (โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์ -พระราม 3) จาก Frasers Property Home ที่เปิดบ้านซีรีส์ใหม่ โซนใหม่สไตล์ยุโรปให้ดูกัน ต้องบอกเลยว่าโครงการนี้มีจุดเด่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันบ้าน ดีไซน์ และทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต วันนี้ inside2home จะมาสรุป 5 จุดเด่นของโครงการไว้ทิ้งท้ายก่อนจบให้ดังนี้

◾ บ้านสไตล์อังกฤษผสมผสานสถาปัตยกรรมยุโรปร่วมสมัย เหมือนอยู่ในคฤหาสน์หรู บ้านในโครงการหลังใหญ่ โอ่อ่า ให้ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยและน่าอยู่
◾ ฟังก์ชันจัดเต็ม รองรับครอบครัวเริ่มต้น ไปจนถึงครอบครัวที่กำลังขยับขยาย หรือบ้านที่มีคุณพ่อคุณแม่อยู่ร่วมกันก็อยู่ได้สบาย เพราะมีถึง 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ โดยที่ห้องชั้นล่างยังสามารถรองรับผู้สูงอายุ โดยไม่ต้องต่อเติมเพิ่มในอนาคต
◾ โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพแห่งการเดินทาง สามารถเข้าออกได้ 4 เส้นทาง คือจาก ถ.สุขสวัสดิ์, ถ.พระราม 2, ถ.ประชาอุทิศ และถ.เลียบวงแหวนรอบนอก และยังสามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย ๆ ผ่าน 5 เส้นทาง ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ด่านสุขสวัสดิ์), ทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์), สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้
◾ Glass House Laundry ห้องซักล้างที่เชื่อมต่อกับห้องครัวส่วนที่โครงการต่อเติมมาให้เสร็จพร้อมใช้งาน ลักษณะหลังคาเป็นกระจกใส เพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามา สามารถใช้ตากเสื้อผ้าได้ ในขณะเดียวกันไม่ต้องกังวลว่าจะผ้าจะเปียกหรือปลิวเมื่อฝนตก
◾ ถนนหลักของโครงการใหญ่กว้างถึง 12 เมตร ทำให้การสัญจรภายในโครงการง่าย และคล่องตัว

หากสนใจโครงการ Golden Neo Suksawat - Rama 3 (โกลเด้น นีโอ สุขสวัสดิ์ -พระราม 3)
นัดเยี่ยมชมโครงการ : 063 268 0888
สนใจโครงการลงทะเบียน: https://bit.ly/36zF9fH
เส้นทางมายังโครงการ : https://maps.app.goo.gl/aLJK5RFu5oi9PMgF6 










































 

ไอเดียแต่งบ้าน