จรัญสนิทวงศ์   ถือเป็นเส้นถนนที่ชาวกรุงเทพฯคุ้นเคยหรือได้ยินชื่อมานานครับ และการที่มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ ที่กำหนดเสร็จในปี 63 นั้น ทำให้ย่านนี้เป็นที่จับตามองของหลายๆ คนมา 2-3 ปีแล้ว เพราะเป็นการเชื่อมการเดินทางใหม่ให้ผู้อยู่อาศัยย่านนี้ สามารถเข้าไปฝั่งหมอชิต รัชดาภิเษก รวมถึงกรุงเทพฯชั้นในได้สะดวกมากขึ้น วันนี้ inside2home ขอพาทุกท่านมาสำรวจความเป็นอยู่ในย่าน "จรัญฯ-บางพลัด" ซึ่งเป็นจรัญฯตอนปลายที่รายล้อมไปด้วยการคมนาคมที่หลากหลายและแหล่งไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจครับ

 

การเดินทางในย่านจรัญฯ-บางพลัด

1. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ

      อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ ว่าย่านนี้มีความคึกคักขึ้นมาก จากการมาของโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสีน้ำเงิน ที่จะเชื่อมการเดินทางในย่านจรัญฯ-บางพลัด ไปสู่การเดินทางด้วยโครงการรถไฟฟ้าสายหลักของกรุงเทพฯอีกหลายสายครับ
- เชื่อมไปยังสถานี บางซื่อ  ศูนย์รวมการเดินทางระบบรางในอนาคตของอาเซียนที่จะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านถึง 4 สาย เข้าถึงย่านธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น 
- เชื่อมไปยังสถานี ท่าพระ  ซึ่งเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ ที่ใหญ่ที่สุดของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน  ที่สามารถเข้าสู่ใจกลางเมือง สามย่านเพียง 15 นาทีเท่านั้น
 

2. รถยนต์ส่วนตัว

      เดิมการเดินทางหลักของย่านนี้คือรถยนต์ครับ โดยเชื่อมเข้าสู่พื้นที่ต่างๆด้วยทางด่วนและสะพานสำคัญๆดังนี้ 
- ทางด่วนศรีรัช เชื่อมการเดินทางย่านจรัญฯสู่เส้นทางสายหลักของกรุงเทพฯ 
- สะพานกรุงธน เชื่อมการเดินทางไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 
- สะพานพระราม 7 เชื่อมการเดินทางไปยังรัชโยธิน-รัชดา 
และถนนวิภาวดีรังสิต 
- สะพานพระปิ่นเกล้า เชื่อมการเดินทางจากถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า เข้าสู่เขตราชดำเนิน
- สะพานพระราม 8 อีกทางเลือกที่ช่วยให้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯชั้นในได้ง่ายขึ้น 
 

3.รถสองแถวกะป๊อ

การเดินทางดั้งเดิมของคนย่านนี้คือรถสองแถวกะป๊อที่มีให้บริการตลอดสายในราคาย่อมเยาครับ
 

4.รถโดยสารประจำทาง

สามารถเดินทางผ่านระประจำทางได้หลายสาย เช่น สาย 18, 110, 175, 203, ปอ.18, ปอ.170, ปอ.203 
 

สำรวจความเป็นอยู่ ย่านจรัญฯ - บางพลัด 

          มาเริ่มสำรวจความเป็นอยู่ในย่าน โดยเราจะพาไปชิม ชม ช้อป ให้ทั่วทั้งย่าน จรัญฯ-บางพลัดและบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีทั้งร้านเก่าแก่ไปจนถึงร้านใหม่ๆ โดยพิกัดที่เราจะไปทั้งหมดมีดังนี้ครับ

"Bant Bakehouse" ร้านคาเฟ่น่ารัก 

          เริ่มที่ร้านคาเฟ่เล็กๆ อยู่ใกล้ๆ โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ ภายในตกแต่งน่ารักและที่สำคัญราคาย่อมเยาครับ โดยช่วงเช้าก่อนเข้าโรงเรียนและหลังเลิกเรียน เด็กๆ จะเยอะหน่อย แต่ถ้าเป็นช่วงกลางวัน ยังมีที่ว่างให้เข้าไปจิบกาแฟและชาหอมๆ ได้หลายที่ เมนูน่าทานคือเครื่องดื่มเย็นต่างๆ ทั้งชาเขียวและโกโก้ รวมถึงขนมปังปิ้งหวานๆ ครับ

 

 

"ครัวในซอย" ร้านมื้อกลางวันของครอบครัว 

          ร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่น เหมือนทานข้าวที่บ้าน ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 มีทั้งโซนในบ้านและนอกบ้านครับ บรรยากาศโซนด้านนอกให้อารมณ์แบบได้ทานข้าวมื้อเย็นกับครอบครัวในสวน อาหารที่นี่เน้นเป็นอาหารไทย เรียบง่าย เหมาะจะพาผู้ใหญ่มาทานเพราะมีเมนูไทยๆให้เลือกมากมาย ที่สำคัญลานจอดรถฝั่งตรงข้ามร้านสามารถจอดรถได้หลายคันเลยครับ

         

(โรตีแกงเนื้อพริกขี้หนูสด)

(ยำหมูย่างกระเทียมโทน)

(ทอดมันปลากราย)

 

"Sheep Village" ร้านชิลล์ยามเย็น

          ร้านน่านังยามเย็นอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 86/1(สุดซอย) เปิดช่วงเย็น 16:00 - 02:00 น. ร้านนี้บรรยากาศดี ตกแต่งสวยๆ เหมาะกับการดินเนอร์ริมแม่น้ำ ฟังดนตรีสดชิลล์ๆ อาหารหลากหลายแบบให้เลือก รสชาติอาหารจัดจ้านเลยครับ ส่วนที่นั่งก็มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่ง ทั้งโซนริมน้ำลมพัดเย็นสบาย หรือจะเป็นมีโซนห้องแอร์ด้านในและโซนคาราโอเกะก็มีให้เลือกใช้บริการหลายห้อง

(กุ้งเผาครึ่งโล)

(ต้มข่าทะเล)

"ช่างชุ่ย " แลนด์มาร์คใหม่แห่งศิลปะ วัฒนธรรมและการพักผ่อน          

          ต้องยอมรับครับว่าตั้งแต่ปี 60 ที่มีการเปิดตัว “ช่างชุ่ย” ได้เรียกความครึกครื้นให้กับย่านนี้มากทีเดียว เพราะผู้คนทั่วกรุงเทพฯได้มารวมตัวกันที่นี่ ผมเชื่อว่าหลายคนก็เคยมาย่านนี้เป็นครั้งแรกเพราะช่างชุ่ย 

 

ช่างชุ่ย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในคอนเซ็ปต์ creative space ให้เราเสพงานศิลป์ ชิมสตรีทฟู้ด และเราสามารถเช็คอินถ่ายรูปได้ทุกมุม บรรยากาศโดยรวมมีกลิ่นไอความเก่า เหมือนเดินมาในยุคสมัยก่อน แต่ก็แฝงไปด้วยความแปลกตาของการออกแบบยุคใหม่ ในความเก่านั้นเก๋ามากๆ ครับ โดยเฉพาะการนำเครื่องบินลำใหญ่มาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของแลนด์มาร์คนี้ แปลกตาและไม่ซ้ำใครครับ

ที่เดียวครบ 3 กิจกรรมของทุกคนในครอบครัว EAT/SHOP/PLAY

 

โซน EAT กิน-ดื่มในช่างชุ่ย

ที่นี่เต็มไปด้วยร้านให้เราไปฝากท้องได้หลากหลายแบบตั้งแต่เครื่องดื่ม อาหารหนักๆ ไปจนถึงร้านดื่มชิลล์ๆ 

"แดกดิ้น" ศูนย์รวมอาหารในสไตล์ฟู้ดคอร์ทสังกะสี ที่มีร้านให้เลือกหลากหลายครับ


มุมนั่งทานอาหารของที่นี่ตกแต่งด้วยของสะสมโบราณที่หาดูได้ยากครับ

Food Truck เป็นอีกโซนที่คนแน่นมากครับ เพราะได้รวมอาหารและเครื่องดื่มแนวสตรีทฟู้ดไว้มากมาย ทั้ง “ชื่นละมุน” "ร้านไอติมกะทิรสเด็ด" “The Crepes Shop”

 

โซน Shop จับจ่ายใช้สอยในช่างชุ่ย 

          ช้อปปิ้งในบรรยากาศใหม่ กับแบรนด์ดังและแบรนด์สตรีทของคนรุ่นใหม่ที่มีมาให้เลือกได้ตลอดครับ ที่นี่เต็มไปด้วยของช้อปทั้งของสะสมแบบเก่า ของมือสองรวมถึงของแบบเน้นไอเดีย และโดยเฉพาะคอวินเทจนี่ต้องมาเลยครับ

 

โซน PLAY รวมหลากหลายกิจกรรม ดูหนัง ฟังเพลง และเสพงานอาร์ตในช่างชุ่ย

"ลานกิจกรรม" นับเป็นความพิเศษของที่นี่คือการมีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรม งานอีเว้นท์ต่างๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาแบบไม่ซ้ำเลยครับ อย่างช่วงที่เรามา ก็พบกับวงนั่งเล่น ดนตรีรุ่นเก๋า  ให้มาถ่ายทอดบทเพลงให้คนรุ่นใหม่ได้ฟังกันเพลินๆ 


"ดูจิตแล้ว อะไรก็ช่าง" เดินผ่านเป็นต้องหยุดมองครับ และสงสัยว่าภายในนี้คืออะไร ใครจะคิดว่าที่นี่จะมีโรงมหรสพที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานให้เป็นทั้งโรงภาพยนตร์ หรือเวทีการแสดงได้ด้วย น่าสนใจมากครับ

 "SO Gallery ChangChui" แกลเลอรี่ “สมบัติ ผลัดกันชม” ในแบบฉบับของช่างชุ่ย ที่นำเสนอผลงานด้านศิลปะของศิลปินต่างๆ โดยจัดเป็นนิทรรศการเล็กๆที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแบบไม่ซ้ำครับ

สำหรับช่วงนี้เป็นธีมเกี่ยวกับความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทย น่าเข้ามาชมมากครับ

"Street Art" สถานที่โดยรอบเราจะเจอผลงานศิลปะที่สามารถชมและถ่ายรูปได้ตลอดทั่วทั้งพื้นที่ครับ

 

ร้านเด็ดช่างชุ่ย : หมูปลาร้าสายซิ่ง

          หลังจากเดินสำรวจมาหลายร้าน ขอแวะที่ร้านนี้ครับและตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ  หมูปิ้งของที่นี่ หอมและปิ้งได้ชุ่มฉ่ำ จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วปลาร้าบองสูตรเด็ดของที่ร้าน บอกได้เลยว่า แซ่บหลาย ที่นี่ขายไม้ละ 7 บาท นิยมสั่งเป็นชุด 7 ไม้ 100 บาท สำหรับใครชอบผักก็หยิบได้ฟรีไม่อั้นตามใจชอบได้เลย

ร้านเด็ดช่างชุ่ย : ร้านน้ำหนูณิชย์ 

           เดินชิลล์กันทั้งวันก็ต้องแวะมาดื่มน้ำหวานๆ ให้เย็นชื่นใจ มาเจอร้านนี้คนต่อคิวซื้ออยู่ตลอดเวลา เลยต้องลองครับ มาถึงดูที่เมนู ร้านโดดเด่นด้วยการมีเมนูน้ำเกือบทุกชนิด เมนูที่เราลองชิมเป็นเมนูโซดา ซึ่งจัดว่าเป็นเมนูยอดฮิตของร้านนี้ที่ใครมาก็ต้องสั่ง อย่างแก้วนี้ เมนูทูโทน เปรี้ยว หวาน ซ่า แก้ร้อนได้ดีทีเดียว



 

วัดเก่าแก่ในย่านจรัญฯ-บางพลัด

วัดอาวุธวิกสิตาราม

           เดิมที่นี่ชื่อ “วัดบางพลัดนอก”  เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200 ปีแล้วครับ โดยในปี พ.ศ. 2441 รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดอาวุธวิกสิตาราม" ภายในวัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำคัญคือ “หลวงพ่อสัมฤทธิ์” (สำริด) ซึ่งเป็นพระพุทธปฏิมาเก่าแก่เนื้อสำริดอายุนับร้อยปี ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้มีผู้คนบอกเล่าสืบๆ กันมาว่า เมื่อมากราบไหว้บูชาขอพรแล้ว ทุกข์โศกโรคภัยไข้เจ็บก็จะมลายหายไป ความปรารถนาทุกอย่างจะสำเร็จภายในเร็วพลัน

ชุมชนเก่าแก่หน้าวัดบางพลัด

          ย่านจรัญฯ เป็นย่านเก่าแก่ที่ยังคงวิถีชุมชนแบบดั้งเดิมไว้อยู่นะครับ เราจึงขอพามาชมอีกมุมมองกับวิถีชุมชนหน้าวัดบางพลัด เป็นย่านเก่าแก่ บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 79 ซึ่งยังคงความเรียบง่าย ร้านค้าต่างๆยังเป็นในแบบรุ่นพ่อแม่ของเรา  

คุณป้ายำแซ่บ

          ร้านอาหารมีเยอะมากจนอดใจไม่ไหวขอชิมสักร้านกับร้านนี้ครับ ยำคุณป้ารสแซ่บสมชื่อมากเลยครับ

  


 

โรงพยาบาล ย่านจรัญฯ-บางพลัด

โรงพยาบาลยันฮี 

          โรงพยาบาลด้านความสวยศัลยกรรมความงามอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่หลายคนรู้จักกันดี นอกเหนือจากเรื่องความงามแล้ว ที่นี่ยังเปิดรักษาโรคทั่วไปแบบครบวงจร รวมถึงทันตกรรมด้วยครับเทียบเท่าโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไปเลยครับ

ขนมเบื้องไทย สูตรโบราณ (ข้างโรงพยาบาลยันฮี)

         ​บริเวณด้านข้างโรงพยาบาลเป็นตลาดเล็กๆ ที่รวมของเด็ดไว้หลายร้าน หากใครแวะไป อย่าลืมแวะชิมขนมเบื้องไทยโบราณ หอม กรอบ อร่อย เจ้านี้รับประกันความเด็ดจริงๆครับ

 

ศูนย์การค้า ย่านจรัญฯ-บางพลัด

"ตั้งฮั่วเส็ง" หรือ "T-Square"

          ถ้าพูดถึงศูนย์การค้าในย่านนี้ ชื่อของ "ตั้งฮั่วเส็ง" หรือชื่อใหม่ T-Square คงเป็นที่นึกถึงอันดับแรก เพราะเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีมายาวนานและปัจจุบัน T-Square ก็ปรับปรุงรูปแบบให้มีร้านค้าชื่อดังให้จับจ่ายไม่แพ้ห้างอื่นๆ เลยครับ

"Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์"

          แน่นอนครับว่า ย่านนี้ต้องมีเทสโก้ โลตัสให้จับจ่ายกันได้สะดวกครับ

 

ปั๊มน้ำมัน ย่านจรัญฯ-บางพลัด

          มั่นใจทุกการเดินทางด้วยปั๊มน้ำมันบริการในย่าน รวมถึงบางปั๊มมี KFC ให้แวะพักอิ่มท้องได้ด้วยครับ

ปั๊มเชลล์

ปั๊มพีที (สาขานี้ มีร้าน KFC)

โรงเรียนทิวไผ่งาม

           โรงเรียนนี้ถือเป็นเป็นโรงเรียนเอกชนชั้นนำโรงเรียนหนึ่งในย่านฝั่งธนบุรีครับ เดิมในช่วงก่อตั้งเมื่อปี 2518  เปิดสอนเฉพาะระดับชั้นอนุบาล ชื่อ "อนุบาลทิวไผ่งาม" และปัจจุบันได้ขยายการสอนจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในชื่อโรงเรียน "ทิวไผ่งาม" ครับ

 

โครงการน่าอยู่ ย่าน จรัญฯ-บางพลัด

          เป็นธรรมดาครับ ที่ย่านเก่าแก่เต็มไปด้วยพื้นที่แห่งไลฟ์สไตล์ และการคมนาคมอันแสนสะดวกจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังจะเสร็จในเร็วๆนี้นั้น จะกลายเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าจับตามอง วันนี้ inside2home ขอแนะนำโครงการน่าอยู่ "De Lapis Charan 81" ของ Grand Unity ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบางพลัดครับ


โครงการ เดอ ลาพีส จรัญ 81 เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 635 ยูนิต ถือว่าน่าสนใจมากเพราะอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแบบเดินได้สบายๆ รวมถึงรายล้อมด้วยความน่าอยู่ของย่านจรัญฯ-บางพลัด อย่างที่เรานำเสนอไปในวันนี้ครับ


อีกจุดไฮไลท์สำคัญคือการเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระงามอันสวยงามเต็มตาครับ เลยนำภาพจำลองโครงการมาฝาก สระว่ายน้ำดาดฟ้า น่าเล่นไปชมวิวมากครับ

ใครที่สนใจ มีข่าวดีว่าโครงการกำลังเปิดจองอย่างเป็นทางการ 19-20 พ.ค.นี้แล้วนะครับ ในราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท เราขอแนะนำว่าให้ลงทะเบียนกันก่อนเพื่อรับส่วนลด สูงสุดถึง 250,000 บาทครับ คลิกลงทะเบียนที่นี่ และสามารถเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้ตั้งแต่ 25 เมษายน เป็นต้นไป ณ สำนักงานขายโครงการ เดอ ลาพีส จรัญ 81 (ถนนจรัญสนิทวงศ์) ครับ


ติดต่อโครงการ “เดอ ลาพีส จรัญ 81” (De LAPIS Charan 81) 
โทร : 02 652 4000
เว็บไซต์ :  www.grandunity.co.th
Facebook : www.facebook.com/GrandUnityDevelopment