รีวิว ทาวน์โฮมซีรีย์ใหม่ ระดับ Super luxury The Welton RAMA III เดอะ เวลตัน พระราม 3

Facebook Twitter Email

          โครงการในวันนี้ที่ inside2home จะพาไปชมกันนั้น เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและพรีเมียมทาวน์โฮมระดับ Super Luxury ย่านพระรามสาม ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดในย่านเลยก็ว่าได้กับโครงการ “ The Welton RAMA III (เดอะ เวลตัน พระรามสาม) ” ...

          เดอะ เวลตัน พระรามสาม คือ โครงการบ้านเดี่ยวและพรีเมียมทาวน์โฮมสไตล์ European Classic ทั้งโครงการ แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก สถาปัตยกรรมยุโรปคลาสสิก นอกจากความสวยงามยังมาพร้อมฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายนอกและภายในที่ตอบโจทย์คนทุกเจนเนอเรชัน เอกสิทธิ์สำหรับ 53 ครอบครัวเท่านั้น ตัวโครงการยังเปิดรับทัศนียภาพแบบไร้สิ่งรบกวนด้วยการวางระบบสายไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ พร้อมพื้นที่สันทนาการขนาดใหญ่สไตล์คฤหาสน์แบบยุโรป บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองถนนพระรามสาม


 
' GREAT LOCATION '
เชื่อมต่อทุกความสะดวกสบาย บนทำเลพระราม 3
         หากพูดถึงทำเล "ถนนพระรามสาม" ถนนสายนี้เป็นถนนที่เลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมต่อถนนรัชดาภิเษก ถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนนางลิ้นจี่ ถนนเจริญกรุง ฯลฯ มีความสะดวกสบายด้านการเดินทาง และแม้จะอยู่ใจกลางเมืองแต่ยังมีความสงบเหมาะกับการพักอาศัย แต่ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาโครงการแนวราบบนถนนพระรามสาม ที่ตอนนี้กลายเป็นทำเลคอนโดมิเนียมไปเรียบร้อยแล้วครับ ด้วยพื้นที่ที่จำกัดและมูลค่าที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่เล็กๆ 1-2 ไร่ จึงเหมาะกับการทำเป็นที่อยู่อาศัยแนวสูงเพราะจะทำให้คุ้มค่ามากกว่า การพัฒนาบ้านแนวราบในย่านพระรามสามจึงหาได้ยากมากๆ เราจึงขอยกให้ เดอะ เวลตัน พระรามสาม เป็นอีกหนึ่งโครงการเพชรเม็ดงามในย่านนี้
          โครงการ เดอะ เวลตัน พระรามสาม ตั้งอยู่บนถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา ถือเป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกมากๆ สามารถเข้าเมืองไปทำงานที่สีลม-สาทรได้ง่าย ใกล้กับจุดขึ้นวงแหวนอุตสาหกรรม เชื่อมต่อกับสะพานภูมิพล 1 และ 2 เพื่อต่อไปถนนกาญจนาภิเษก หรือจะเข้าเมืองไปทางศรีนครินทร์-บางนา ก็ง่าย อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ใกล้ที่สุดคือ เซ็นทรัล พลาซา พระราม 3 ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ใกล้ๆ กันก็มีทั้ง The Up และ Tesco Lotus และในอนาคตก็จะมี Terminal 21 เกิดขึ้นบนถนนพระราม 3 นี้อีกด้วยครับ หากต้องการหาของอร่อยขับรถยนต์ไปตามถนนนนทรี เชื่อมต่อถนนจันทน์ย่านนี้มีของอร่อยให้เลือกรับประทานเพียบ นอกจากนี้ยังเป็นย่านการศึกษา เต็มไปด้วยโรงเรียนเอกชนชั้นนำ  เช่น รร.นานาชาติโชรส์เบอร์รี่ รร.สารสาสน์พัฒนา รร.นานาชาติสาทรใหม่ รร.กรุงเทพคริสเตียน  และยังใกล้ รพ.เซนต์หลุยส์ รพ.บีเอ็นเอช รพ.เลิดสิน เป็นต้น เรียกว่าใกล้ทุกสิ่งจริงๆ ครับ
 

▪ เพียง 3.2 กม. เซ็นทรัล พลาซา พระราม 3
▪ เพียง 6 กม. โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
▪ เพียง 6 กม. Terminal 21 พระราม 3
▪ เพียง 6.9 กม. โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ ริเวอร์ไซด์
▪ เพียง 6.2 กม. King's College International School Bangkok
 
ซุ้มประตูโครงการ
          เข้ามาสู่ตัวโครงการกันบ้างครับ ไอเดียการดีไซน์ของโครงการได้สะท้อนออกมาตั้งแต่ซุ้มประตูซึ่งเป็นกำแพงสูง 3 เมตร ขนาดใหญ่ดูหนาแน่นก่ออิฐฉาบปูนมีช่องซุ้มโค้งตามแบบฉบับยุโรปดั้งเดิม ส่วนทางเข้าโครงการจะใช้เป็นไม้กระดกกั้นโซนพักอาศัย หากเป็นตอนกลางคืนจะมีประตูเหล็กแบบรางเลื่อนปิดอีกชั้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัย ซึ่งลูกบ้านจะใช้ระบบ Easy Pass ที่สามารถขับรถผ่านด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth ได้เลย หากเป็นผู้มาเยือนต้องมีการแลกบัตร จากป้อม รปภ. ที่คอยอำนวยความสะดวกและตรวจตรา 24 ชั่วโมง พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ในจุดนี้ด้วย
 



CLUB HOUSE
          มาดูในส่วนของคลับเฮาส์กันบ้างครับ อาคารคลับเฮาส์ถูกจัดวางเป็นแบบ L- Shape ด้านในตัวอาคารชั้นแรกนี้จะเป็นพื้นที่ของ Sale Gallery มีที่นั่งพักผ่อนรับรองแขกผู้มาเยือน การออกแบบให้เป็นเพดานสูงผนังโดยรอบเป็นกระจกสูงจรดเพดานเพื่อให้แขกได้มองเป็นวิวภายนอกได้ด้วย และเมื่อโครงการขายหมดพื้นที่ตรงนี้จะมีการคืนเพื่อทำเป็น Co-Living Space ต่อไปครับ ถัดไปจะเป็นโซนห้องน้ำ ห้องอาบน้ำและมีตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บเครื่องแต่งกายก่อนลงว่ายน้ำ ส่วนด้านหน้าอาคารก็จะเป็นสระว่ายน้ำแบบ Outdoor แยกความลึกของเด็ก 70 CM. และผู้ใหญ่ 120 CM. ความกว้างของสระ 4.98 x 22 M. เพียงพอต่อการว่ายน้ำเพื่อออกำลังกาย นอกจากนี้ยังมี Jacuzzi ความลึก 80 CM. ซึ่งจะมีพุ่มไม้บังบริเวณสระว่ายน้ำเอาไว้ เพื่อไม่ให้รถจากถนนโครงการมองเข้าไปได้เพื่อความเป็นส่วนตัว สำหรับชั้น 2 ของคลับเฮาส์ ทางโครงการได้จัดให้เป็นห้องออกกำลังกาย และห้องประชุม ที่สามารถเทควิวได้รอบโครงการ

SWIMMING POOL & JACUZZI
SALE GALLERY
 
แบบบ้านโครงการ
THE WELTON RAMA III
 
          The Welton RAMA III (เดอะ เวลตัน พระรามสาม) เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น และพรีเมียมทาวน์โฮม 4 ชั้น จำนวน 53 หลัง แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 16 หลัง และพรีเมียมทาวน์โฮม 37 หลัง โดยแบบบ้านจะมีให้เลือก 5 แบบ ดังนี้ครับ
◾ 
Prestige I บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 73.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 577 – 578 ตร.ม.
ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน Double Volume Living Room, Multipurpose Room
◾ Prestige II บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 73.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 577 – 578 ตร.ม.
ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน Double Volume Living Room, Multipurpose Room
◾ Pride ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 8.6 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 39.57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 478 – 500 ตร.ม.
ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Living Area, Dining Area, Sky Terrace
◾ Proud ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 44.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 490 – 502 ตร.ม.
ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Living Area, Dining Area, Sky Terrace
◾ Passion ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 352 – 361 ตร.ม. 
ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Living Area, Dining Area, Sky Terrace

          “หลังจากที่ได้ชมพื้นที่ส่วนกลางมาแล้ว พอเข้ามาในส่วนของบ้านสิ่งที่เราสัมผัสได้เลยก็คือ การวางคอนเซ็ปต์ที่ทำออกมาได้ดี การออกแบบคลับเฮาส์และตัวบ้านทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเชื่อว่าทุกองค์ประกอบอยู่ในเมืองเดียวกันจริง หลายครั้งที่โครงการจะเอาคอนเซ็ปต์ไปให้ความสำคัญที่คลับเฮาส์เท่านั้น แต่สำหรับ เดอะ เวลตัน พระรามสาม เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุโรปคลาสสิกได้ทุกมติ ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่โครงการ ถึงคลับเฮาส์ ตัวบ้าน ยันภายในตัวบ้าน” 

และวันนี้เราจะไปชมบ้านตัวอย่าง 2 แบบด้วยกัน คือ บ้านเดี่ยว Prestige I และทาวน์โฮม Pride ดูฟังก์ชันและไอเดียการตกแต่งภายในบ้าน The Welton RAMA III (เดอะ เวลตัน พระรามสาม) ลองไปชมกันครับ



 
แบบบ้าน PRIDE
พื้นที่ใช้สอย 478 – 500 ตร.ม.

          เริ่มกันที่แบบบ้าน Pride ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 8.6 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 39.57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 478 – 500 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Living Area, Dining Area, Sky Terrace  รูปแบบของบ้านมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันทั้งโครงการ ที่ Facade แบบบ้าน Pride ออกแบบมาในสไตล์ European Classic มีระเบียงที่สามารถปลูกไม้เลื้อยเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้าน

“ต้องบอกว่าทาวน์โฮมที่นี่มีขนาด Oversize ครับฟังก์ชันเท่ากับบ้านเดี่ยว ซึ่งห้องนอนทุกห้องจะมี Walk in Closet และห้องน้ำในตัว สำหรับตัวบ้านทางโครงการเขาจัดให้เต็มพื้นที่ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ซักล้าง ตากเสื้อผ้า ซึ่งโครงการได้วางตำแหน่งให้โซนซักล้างอยู่ที่ชั้น 4 ทั้งชั้นจะเป็นห้องแม่บ้านและพื้นที่ทำความสะอาด โดยเปิดพื้นที่ทั้งส่วน Indoor และ Outdoor เพื่อใช้งานอเนกประสงค์”

 
 


พื้นที่แรกของบ้านคือ บริเวณที่จอดรถ สำหรับบ้านหลังนี้สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน ความสูงของเพดาน 3 เมตร ทำให้จอดรถขนาดใหญ่ได้สบายๆ ทางเข้าบ้านจะมีเฉลียงเล็กๆ ซึ่งด้านหน้ายังมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ได้ถึง 3 จุดด้วยกัน โดยช่องเก็บของด้านหน้าที่ยื่นออกมาเท่าเฉลียงทางเข้า จะเป็นช่องเก็บของที่เกิดจากช่องว่างของบันได ทางโครงการจึงจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ ส่วนประตูทางเข้าที่เห็นเป็นเหล็กดัดก็จะเป็นประตูมาตรฐานของทาวน์โฮมครับ





เมื่อเข้าสู่ภายในบ้าน โซนแรกเป็น Foyer ที่เชื่อมต่อกับบันได และช่องลิฟต์ที่สามารถจะมาติดตั้งเพิ่มได้ในอนาคต หรือจะปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องเก็บของแทนก็ได้ บริเวณนี้ยังค่อนข้างกว้างสามารถเพิ่มมุมรับแขกเป็น Double Living Room ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ได้เลย





ในส่วนของ Living Room โซนนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่ Living Outdoor กั้นโซนด้วยประตูเลื่อนกระจกบานใหญ่ ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติที่มาจากหลังบ้าน บวกกับความสูงโปร่งของเพดานถึง 3 เมตร ยิ่งทำให้ห้องดูโล่งกว้างยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของพื้นที่สามารถจัดชุดเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นรูปตัว U หรือประมาณ 4-6 ที่นั่งได้สบาย สำหรับบ้านที่ขายพื้นที่นอกบ้านฝั่ง Living Room ทางโครงการจะปูหญ้าให้เต็มพื้นที่ซึ่งไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้จึงเหมาะที่จะทำเป็นสวนหย่อมสำหรับนั่งเล่นหรือรับแขกพิเศษ หรือทำเป็นสวนแนวตั้ง เป็นการสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าอยู่



ถัดไปจะเป็น Dining Room มุมนี้จะเชื่อมต่อสู่ครัวนอกบ้าน ความกว้างของพื้นที่สามารถจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 6-10 ที่นั่ง 




สำหรับห้องครัว มุมนี้เป็นส่วนที่โครงการได้ต่อเติมเพื่อเป็นไอเดีย ส่วนบ้านจริงที่ขายโซนนี้จะเป็นพื้นที่โล่ง โดยมีการลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไว้ให้เพื่อรองรับการต่อเติมครัวเฉพาะฝั่งที่ติดกับ Dining Room หรือสังเกตง่ายๆ คือพื้นที่ตรงนี้จะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำชั้นล่างหรือฝั่งบันไดนั้นเองครับ



สำหรับห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ในตำแหน่งใต้บันได โดยเขาจะออกแบบให้เป็นบันไดลงไป 4 ขั้น เพื่อให้มีระยะของเพดานที่เหมาะสม





ก้าวเข้ามาบนชั้นสองกันบ้างครับ จะพบกับโถงกว้างๆ ซึ่งโครงการได้เปลี่ยนพื้นที่นี้ให้เป็นห้องทำงาน พร้อมมุมรับแขกที่จัดวางที่นั่งเป็นรูปตัว I แบบขนานกัน ส่วนระเบียงสามารถเปิดออกและเชื่อมต่อกัน









มาถึงห้องนอนห้องแรก Master Bedroomจะอยู่ที่ชั้น 2 ครับ ฟังก์ชันของห้องจัดมาครบทั้งส่วนที่เป็นห้องนอน ห้องแต่งตัว และห้องห้องน้ำในตัว สำหรับชั้น 3 มี อีก 2 ห้องนอน ซึ่งจริงๆ แล้ว พื้นที่ใช้สอยทั้ง 3 ห้องนอน ก็จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกันมาก แต่ก็จะมีฟังก์ชันบางอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามา และตำแหน่งของห้องก็ยังทำให้ห้องมีกิมมิกที่ต่างกัน เช่น ระเบียงและช่องแสง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฟังก์ชันห้องนอนที่โครงการเน้นคือทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว เพื่อความสะดวกสบายต่อการใช้งาน






ห้องนอนที่ 2

ห้องนอนที่ 3

 


โซนหลังคาซึ่งจะเป็นชั้นที่ 4 ของบ้านออกแบบมาให้เพิ่มพื้นที่ใช้สอย แทนที่จะทำเป็นช่องว่างของหลังคาเฉยๆ ก็ทำเป็นห้องแม่บ้านที่สามารถนอนได้ ห้องละ 2 คน พร้อมพื้นที่ซักล้างขนาดใหญ่เพื่อตากผ้าชิ้นใหญ่ๆ ได้ด้วย


แบบบ้าน PRESTIGE I 
​พื้นที่ใช้สอย 577 – 578 ตร.ม.
          ต่อกันด้วยแบบบ้าน Prestige I บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดินเริ่มต้น 73.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 577 – 578 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน Double Volume Living Room, Multipurpose Room เป็นแบบบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ และยังคงมีกลิ่นอายของสไตล์ European Classic แทรกซึมในทุกรายละเอียด เช่น การเซาะร่องตามผนังกำแพงภายนอก หรือโครงสร้างกรอบหน้าต่างและประตูที่โค้งมนขนาดใหญ่เป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์พื้นที่ภายในให้โอ่อ่า เพดานสูง และยังไม่นับรวมถึงรายละเอียดปลีกย่อย ในการเลือกใช้วัสดุที่ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ราวบันได โคมไฟ บานประตูไม้สัก ฯลฯ ที่เผยความเป็นยุโรปอย่างแท้จริง
 




เริ่มกันตั้งแต่รั้วของบ้านก่อนเลยครับ เขาจะมีพื้นที่ของตู้เก็บขยะ ที่ดีไซน์กลมกลืนไปกับกำแพงบ้าน ช่วยเก็บซ่อนความไม่น่ามองในขณะเดียวกันยังช่วยสร้างระเบียบให้กับหน้าบ้านทุกหลัง ถัดเข้ามาในโซนของพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ 5 คัน โดยแบ่งเป็นที่จอดด้านใน 2 คัน และจอดซ้อนด้านนอกอีก 3 คัน โดยห้องแม่บ้านของบ้านหลังนี้จะอยู่บริเวณที่จอดรถ รวมถึงพื้นที่ซักล้างก็ยังอยู่ในโซนนี้เช่นกันครับ แต่จะเห็นได้ว่าทางโครงการได้ทำตู้เก็บของมาบังพื้นที่ซักล้างเอาไว้ เพื่อให้มุมมองหน้าบ้านยังดูดี สวยงาม ในขณะที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้จริง



สำหรับบ้านเดี่ยวจะมีพื้นที่ด้านข้างของตัวบ้านเหลือไว้สำหรับตกแต่งเป็นสวนพักผ่อน ซึ่งบ้านตัวอย่างหลังนี้เขาได้ทำเป็นสวนอังกฤษ ประดับตกแต่งด้วยไม้พุ่มและตุ๊กตาปูนปั้นเพื่อให้สอดรับกับบรรยากาศของโครงการ




สำหรับทางเข้าของบ้านเดี่ยวจะมีด้วยกัน 2 ทางครับ คือ เข้าจากประตูหลักซึ่งจะผ่านซุ้มประตูไม้สักบานใหญ่ เปิดเข้าไปเจอ Foyer ที่เชื่อมต่อกับโถงรับแขก Double Volume กับทางเข้าอีกหนึ่งทางที่จะเปิดไปเจอกับลิฟต์ สามารถเดินเลี่ยงเข้าบ้านได้แบบไม่ต้องรบกวนพื้นที่รับแขก





เมื่อเปิดจากประตูทางเข้าหลักโซน Living Room นี้จะอยู่ทางขวามือ ลักษณะเป็นเพดานสูงหรือ Double Volume ระยะจาก Floor to Ceiling ของห้องนี้จะอยู่ที่ 6.8 เมตร ผนังเป็นกระจกโดยรอบ เน้นการใช้แสงธรรมชาติเข้าถึงพื้นที่ในบ้าน ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง แม้หากมีการกั้นโซนก็ยังไม่รู้สึกอึดอัดอีกด้วยครับ





โซนที่ต่อเนื่องจาก Living room ทางโครงการจัดให้เป็นมุมรับประทานอาหาร หรือ Dining Room และ Pantry ต่อเนื่องตามแนวความกว้างของบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควร สามารถจัดวางโต๊ะเป็นแนวยาวขนาด 8 - 10 ที่นั่งเลยทีเดียว อีกทั้งยังทำเป็น Pantry ขนาดใหญ่ รองรับการทำอาหารเบาๆ เช่น อาหารเช้า หรือเบเกอรี่ ส่วนครัวหนักสามารถมูฟไปใช้ในส่วนครัวต่อเติมด้านนอกได้



สำหรับพื้นที่ครัวหนัก ทางโครงการได้มีการต่อเติมเพิ่มเพื่อให้เป็นไอเดีย และบ่งบอกว่าพื้นที่บริเวณนี้สามารถที่จะต่อเติมได้เนื่องจากทางโครงการได้ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไว้ให้แล้ว



ห้องน้ำสำหรับแขก จะอยู่ฝั่งเดียวกับ Pantry มีโถสุขภัณฑ์ที่แยกฟังก์ชันของผู้ชายและผู้หญิง



มาดูในส่วนของชั้น 2 กันบ้างครับ ลองสังเกตที่บันไดเขาจะใช้ไม้สักสำหรับงานพื้น เหล็กราวบันไดจะเป็นงานสไตล์ยุโรปเข้ากับตัวบ้าน ระยะความกว้างของบันไดไม่คับแคบ นอกจากนี้เฉพาะบ้านเดี่ยวเขายังได้ติดลิฟต์ให้กับบ้านทุกหลัง อีกทั้งความกว้างของลิฟต์ก็ทำให้รถเข็นวีลแชร์ก็สามารถใช้งานได้ เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้ว ในชั้นนี้จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน และ 1 พื้นที่อเนกประสงค์



พื้นที่ตรงนี้คือ Multipurpose หรือพื้นที่อเนกประสงค์ซึ่งอยู่ด้านในสุด ฝั่งเดียวกับ Living Room เป็นชั้นลอยที่สามารถมองลงมาเจอกับมุมต้อนรับแขกหน้าบ้าน สำหรับพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้างเหมาะจะเป็น Family Area สำหรับการพักผ่อนส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน




ห้องแรกนี้เป็น ห้องผู้สูงอายุซึ่งอยู่ติดกับลิฟต์ การจัดฟังก์ชันในห้องนี้ยังคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งานของผู้สูงอายุ โดยจะไม่มีสเต็ป และไม่มีฉากกั้นห้องน้ำ เพื่อป้องกันการสะดุดล้ม







ถัดไปเป็นห้อง Master bedroom ภายในห้องแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยก้าวแรกจะพบกับพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งทางโครงการเขาจัดไว้เป็นเคาท์เตอร์บาร์เชื่อมต่อ Sky Terrace ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถวางโต๊ะน้ำชาขนาด 2 ที่นั่ง ถัดมาจะเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ (Walk in Closet ) เชื่อมต่อห้องน้ำที่มีครบทุกฟังก์ชัน





ส่วนชั้น 3 เมื่อเดินขึ้นมาจะพบห้องพระเป็นมุมแรก ห้องนี้ผนังทำเป็นผนังกระจกใส เป็นห้องที่ดูเปิดเผยแต่ก็มีการกั้นโซนเพื่อความสงบ จึงเหมาะที่สุดที่จะใช้เป็นห้องพระ บนชั้น 3 ยังมีอีก 3 ห้องนอน แต่แตกต่างกันที่สไตล์การตกแต่งเพื่อนำไปเป็นไอเดีย ซึ่งพื้นใช้สอยก็มีลดหลั่นกันแต่จะมีห้องน้ำและมุมแต่งตัวทุกห้อง เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน





ห้องนอนที่ 3




ห้องนอนที่ 4




ห้องนอนที่ 5


ทั้งนี้ที่ชั้น 3 ยังมีพื้นที่เหลือ โซนหน้าบ้านทางโครงการได้จัดเป็นห้องทำงาน ส่วนอีก 1 ห้องจะอยู่ติดกัน แต่ไปอยู่ในโซนด้านข้าง ห้องนี้โครงการเว้นไว้ไม่ตกแต่งเพื่อทำเป็นห้องเปล่าสำหรับเก็บสิ่งของเหลือใช้ครับ




 
แบบบ้าน PRESTIGE II
พื้นที่ใช้สอย 577 – 578 ตร.ม.
          บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 73.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 577 – 578 ตร.ม. สำหรับพื้นที่ใช้สอยอาจไม่ต่างจากบ้าน Prestige I ซึ่งความแตกต่างจะอยู่ที่ฟังก์ชันห้องนอน 4 ห้องนอน ทำให้ห้องนอนมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีถึง 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน Double Volume Living Room, Multipurpose Room เช่นเดียวกัน
 

 
แบบบ้าน PROUD
พื้นที่ใช้สอย 490 – 502 ตร.ม.
          ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 44.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 490 – 502 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Living Area, Dining Area, Sky Terrace
 
 
แบบบ้าน PASSION
พื้นที่ใช้สอย 352 – 361 ตร.ม.
          ทาวน์โฮม 4 ชั้น ขนาดเล็กที่สุด หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 352 – 361 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน Living Area, Dining Area, Sky Terrace
 


รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ  The Welton rama 3
 เดอะ เวลตัน พระราม 3
 เจ้าของโครงการ  PATTRA HOME
 ภัทราโฮม
 ที่ตั้งโครงการ  856 ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี
 เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
 ลักษณะโครงการ  บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมขนาดใหญ่
 จำนวนบ้าน  53 ยูนิต
 พื้นที่โครงการ  ที่ดิน 10-0-63.5 ไร่
 ขนาดที่ดิน  ที่ดินเริ่มต้น 27.3 - 73.59 ตร.ว.
 แบบบ้าน  ▪ Prestige I 577 – 578 SQ.M.
5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน
 ▪ Prestige II 577 – 578 SQ.M.
4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน
 ▪ Pride 478 – 500 SQ.M.
3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
 ▪ Proud 490 – 502 SQ.M.
3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
 ▪ Passion 352 – 361 SQ.M.
3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
 สิ่งอำนวยความสะดวก  ▪ คลับเฮาส์
 
▪ สระว่ายน้ำ
 
▪ ฟิตเนส
 ▪ ห้องประชุม
 ▪ Co-working Space
 ▪ ระบบสายไฟใต้ดิน
 
▪ ระบบรักษาความปลอดภัย
 
▪ กล้องวงจรปิด
 
▪ รปภ.
 สถานที่สำคัญรอบโครงการ  ▪  โรงเรียนสารสาสน์พัฒนา
 
▪  โรงเรียนสารสาสน์พิทยา
 
▪  เซ็นทรัล พลาซา พระราม 3
 
▪  เทอมินอล 21 พระราม 3
 
▪ โรงเรียนนานาชาติสาทรใหม่
 
▪  The Up
 
▪  โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา
 
▪ โรงเรียนเซนต์ยอแซฟ ยานนาวา
 
▪ Tesco Lotus พระราม 3
 
▪  แมคโคร สาทร
 
▪ โฮมโปร พระราม 3
 
▪ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
 
▪ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
 
▪ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
 
▪ โรงพยาบาลเลิดสิน
 
▪ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน




สรุปจุดเด่น
 THE WELTON RAMA III

          เป็นอย่างไรบ้างครับกับโครงการ The Welton Rama III (เดอะ เวลตัน พระรามสาม) คฤหาสน์หรูสไตล์ European Classic บนทำเลพระรามสาม สำหรับชื่อแบรนด์ "ภัทราโฮม" เจ้าของโครงการ เดอะ เวลตัน พระรามสาม หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก แต่แม้ว่าจะเป็น Local Brand ก็นับว่าเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแรงด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่พอตัวครับ ด้านประสบการณ์เรื่องบ้านมีมากว่า 45 ปี เน้นการสร้างบ้านที่ให้พื้นที่ใช้สอยมากกว่า และให้ความสำคัญกับโครงสร้างและวัสดุที่ใช้ มีความคงทนยืนนานสามารถเป็นมรดกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และจากที่ผมได้เข้าไปสัมผัสกับโครงการ เดอะ เวลตัน พระรามสาม นี้มาแล้ว ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ อย่างเช่น

▪ ระบบโครงสร้าง : อย่างที่ได้เกริ่นมาแล้วนั้นว่าเขาใส่ใจในเรื่องระบบโครงสร้างที่แข็งแรงคงทน จะเห็นว่าการก่อสร้างของเขาก่อด้วยก่ออิฐมอญแดง 2 ชั้น (Double Wall) โดยจะมีช่องว่างระหว่างกันอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 ซม. ข้อดีก็คือจะช่วยป้องกันเสียงและความร้อนได้ดี ซึ่งปัจจุบันการสร้างบ้านระบบแบบนี้จะไม่นิยมกับโครงการทั่วไป เพราะจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เรียกว่าเป็นโครงการดีที่หายากมากครับ

▪ ฟังก์ชันบ้านเน้นการใช้งานได้จริง : ใครที่ชอบบ้านที่ไม่เน้นการต่อเติมในภายหลัง เดอะ เวลตัน พระรามสาม ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว อย่างเช่นที่จอดรถจะทำมาแบบในร่ม ตั้งแต่ 2-5 คัน ซึ่งแล้วแต่แบบบ้านครับ พื้นที่จอดรถยังลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านป้องกันการทรุดตัว ส่วนห้องนอนทางโครงการจะทำให้ทุกห้องมีห้องน้ำและมุมสำหรับแต่งตัวทุกห้อง นอกจากนี้ทุกซอกมุมทางโครงการยังเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้สามารถทำเป็นที่เก็บของได้จริงจัง ส่วนพื้นที่ระเบียงก็ยังมีพื้นที่ให้สำหรับวางกระถางต้นไม้มาพร้อมก็อกน้ำเพื่อรดน้ำต้นไม้

▪ มีช่องสำหรับลิฟต์โดยสาร* : พื้นที่ใช้สอยของบ้าน 3 - 4 ชั้น ทำให้โครงการมีการเว้นช่องสำหรับติดตั้งลิฟต์โดยสารสำหรับทาวน์โฮมไว้ให้ด้วย ยกเว้นแบบบ้าน Passion ส่วนบ้านเดี่ยวจะติดตั้งลิฟต์ไว้ให้เลยครับ เป็นลิฟต์ยี่ห้อ Hitachi ขนาด 200 kg. หรือประมาณ 3 คน รองรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ

▪ โครงการสูงกว่าถนนหลัก 1 เมตร : และหากเทียบความสูงของถนนนนทรี ตัวโครงการจะมีการถมให้สูงกว่าถนนหลักเกือบ 1 เมตรครับ อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับคลองภูมิ สำหรับคลองภูมินี้จะไปเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เวลาฝนตกลงมาจะช่วยระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาตรงจุดนี้ก็ยังไม่เคยมีน้ำท่วมขังอีกด้วยครับ

▪ วางระบบไฟฟ้าใต้ดินปรับภูมิทัศน์เพื่อความสวยงาม : เป็นความจงใจที่โครงการต้องการนำสายไฟสายเคเบิ้ลลงใต้ดินเพื่อให้สิ่งปลูกสร้างดูโดดเด่นเสริมให้บรรยากาศแบบยูโรเปียนคลาสสิกดั้งเดิมดูสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้ทางโครงการยังได้มีการปรับภูมิทัศน์ชุมชนโดยรอบด้วยการปรับปรุงถนน ทาสีกำแพง ปรับความเรียบร้อยของฟุตบาท และร่วมกันจัดระเบียบการจอดรถระหว่างชุมชนและจราจรท้องที่ให้เป็นระเบียบ

▪ เชื่อมต่อการเดินทางสะดวก : ที่ตั้งโครงการจากปากซอยสามารถขึ้นสะพานภูมิพล 1 และ 2 ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที เพื่อข้ามไปยังถนนปู่เจ้าสมิงพลาย ถนนสุขสวัสดิ์ หรือเชื่อมต่อถนนกาญจนาภิเษกไปย่านศรีนครินทร์ได้รวดเร็ว นอกจากนี้ยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร (ด่านนางลิ้นจี่) ประมาณ 4.5 กม. เพื่อไปยังดินแดง แจ้งวัฒนะ พระราม 9 ความสะดวกสบายในย่านพระรามสามยังรวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่มีทั้งห้างเก่าใหม่เป็นที่พักผ่อนของคนในย่านนี้อีกหลายที่ เช่น Terminal 21 พระรามสาม ที่จะเปิดเร็วๆนี้ และยังมีเซ็นทรัล พลาซา พระรามสาม The Up Tesco Lotus หรือแหล่งรวมอาหารการกินบนถนนจันทน์ ซึ่งมีร้านดังเก่าแก่อีกมากมายเลย

----------------------

หากสนใจโครงการ The Welton Rama III (เดอะ เวลตัน พระรามสาม)

สามารถนัดเยี่ยมชมโครงการได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. หรือโทร 02-681-6602
พิกัดโครงการ 
https://maps.google.com/maps?q=13.681382%2C100.544548

ไอเดียแต่งบ้าน