สราญสิริ พระราม 2

Facebook Twitter Email
Living in the love-tination
ให้ทุกช่วงเวลากลายเป็นความทรงจำสุดพิเศษกับบ้านดีไซน์ MODERN FARMHOUSE


          สัมผัสความอบอุ่นภายใต้ความสง่างามกับบ้านบ้านเดี่ยวดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ “Modern Farmhouse” ที่จะเปลี่ยนให้วันธรรมดาของทุกครอบครัวให้กลายเป็นวันพิเศษในบรรยากาศตะวันตก เติมเต็มช่วงเวลาดี ๆ กับครอบครัวด้วยความรักที่สมบูรณ์แบบ ด้วยฟังก์ชันบ้านที่พิเศษไม่เหมือนใคร อาทิ Enclosed Balcony, Bay Window และ Connecting Living Area พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คล่องตัวทุกการเดินทาง ใกล้ทางด่วน เข้าสู่ใจกลาง CBD ได้อย่างง่ายดาย ในสังคมคุณภาพ 135 ครอบครัว ด้วยราคาเริ่มต้น 9 - 12 ล้าน*
 
Living in the City
“พระราม 2” พร้อมเชื่อมต่อทุกความสะดวกสบาย



 
          “พระราม 2” ทำเลที่เพียบพร้อมด้วยโครงข่ายการคมนาคมครบทุกด้าน พร้อมเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ถือว่าเป็นอีกทำเลที่กำลังมาแรง ด้วยตัวทำเลตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง รวมถึงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ครบครัน ทำให้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยศักยภาพด้านการเดินทางที่เป็นจุดเด่นของทำเลโซนพระราม 2 ที่สามารถเดินทางเข้า - ออกเมืองได้สะดวก สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายถนนและทางพิเศษได้หลากหลาย อาทิ
.
◾ ทางด่วนเฉลิมมหานคร ที่สามารถขับเข้าไปในย่านใจกลางเมืองโซน พระราม 3, พระราม 4, คลองเตย, สุขุมวิท และเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชไปย่านสาทร สีลมได้
◾ ทางด่วนกาญจนาภิเษกเดินทางเข้า-ออก เมืองได้อย่างสะดวก สามารถไปยังวงแหวนอุตสาหกรรม, พระราม 3, สมุทรปราการ, บางนา, เทพารักษ์
◾ โครงการมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-วังมะนาว
.

          นอกจากนี้ ทำเลพระราม 2 ยังถือว่าเป็นทำเลที่ครบครันและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง โรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร ทำให้ทำเลพระราม 2 เป็นทำเลที่เหมาะสำหรับคนที่อยากขยับออกมาอยู่นอกเมืองหลีกหนีความวุ่นวาย แต่ก็ยังคงเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย และออกต่างจังหวัดเข้าสู่ภาคใต้ได้สะดวก



          สำหรับโครงการ “สราญสิริ พระราม 2” (Saransiri Rama 2) ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ซอย 33 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จากตัวโครงการอยู่ห่างจาก ทางด่วนเฉลิมมหานคร เพียง 5.2 กม. สะดวกสบายมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางจากพระราม 2 เข้าสู่ใจกลางเมือง CBD ที่ตั้งโครงการไม่วุ่นวาย ค่อนข้างเงียบสงบแต่ก็รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน รองรับความต้องการที่หลากหลาย อาทิ
.
◾ ถนนพระราม 2 3.5 กม.
◾ ถนนสุขสวัสดิ์ 7.4 กม.
◾ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร 5.2 กม.
◾ เซ็นทรัล พลาซา พระราม 2 7.4 กม.
◾ เดอะ ไบรท์ พระราม 2 5.1 กม.
◾ โฮมโปร พระราม 2 5.2 กม.
◾ บิ๊กซี พระราม 2 6.6 กม.
◾ โรงเรียนรุ่งอรุณ 1.7 กม.
◾ โรงพยาบาลบางปะกอก 9 5.9 กม.
◾ โรงพยาบาลบางมด 4.6 กม




          ก่อนที่จะเข้าไปถึงตัวบ้าน เราแวะมาดูทางเข้าโครงการกันก่อนครับ สิ่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดเมื่อมาถึงโครงการ คือ ซุ้มประตูทางเข้าที่สวยงามราวกับปราสาทที่มีความสง่างามแสนอบอุ่น หลังคาทรงจั่วสูงที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Charming Village สไตล์ Modern Farmhouse ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมอาร์คโค้ง (Arch) ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ช่วยสร้างบรรยากาศโครงการให้มีกลิ่นอายความเป็นตะวันตกได้เป็นอย่างดี



          ซึ่งทางโครงการใส่ใจในการออกแบบตั้งแต่ซุ้มทางเข้าไปจนถึงตัวบ้านรวมถึงบรรยากาศในโครงการ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สวยงาม ยิ่งใหญ่และเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ราวกับการต้อนรับกลับบ้านด้วยความรักอันอบอุ่น



          ระบบรักษาความปลอดภัยมีมาตรฐาน ประตูทางเข้าเป็นระบบ Auto Gate มีบันทึกเข้าออกด้วยระบบ VMS ทุกครั้งสำหรับผู้มาเยี่ยมเพื่อความอุ่นใจของลูกบ้าน แยกประตูเข้า - ออก สำหรับลูกบ้านและผู้มาเยี่ยม มี Pass Tag System เพื่อความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย



          ทางโครงการใช้ระบบ Pass Tag System กับลูกบ้านในการเข้าสู่โครงการเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก และจุดเด่นของระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ คือ ระบบรักษาความปลอดภัยของแสนสิริ LIV ได้แก่ ระบบรั้วป้องกันผู้บุกรุก ติดตั้งกล้อง CCTV ในจุดอับสายตา และมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราในโครงการทุก ๆ 30 นาที



          สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ “สราญสิริ พระราม 2” (Saransiri Rama 2) ก็ยังคงดึงเอาจุดเด่นที่มีมาตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า นั่นก็คือ การออกแบบสไตล์ Modern Farmhouse เข้ามาใช้ด้วย โดดเด่นด้วยคลับเฮาส์ทั้ง 2 ฝั่งที่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ ให้ความรู้สึกราวกับการเดินเล่นอยู่บนปราสาท




          พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน อาทิ
◾ Co-working space
◾ ห้องฟิตเนส
◾ สระว่ายน้ำระบบเกลือ
◾ สนามเด็กเล่น
◾ jogging track
◾ สวนส่วนกลาง




          ความพิเศษที่น่าสนใจของคลับเฮาส์และส่วนกลางในโครงการที่น่าจะถูกใจสายถ่ายรูป สายทำ Content คือ แทบทุกมุมจะมีความสวยงามราวกับภาพวาด ไม่ว่าจะเดินไปจุดไหนหรือใช้พื้นที่ส่วนใดของโครงการ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในปราสาทท่ามกลางฟาร์มเฮาส์อันอบอุ่น



          สำหรับ Co-working space ของโครงการมีทั้งหมด 2 จุด คือ ด้านที่อยู่ร่วมกับฝ่ายนิติบุคคล (ในอนาคต) จะเป็นห้องแอร์ที่ถูกล้อมรอบด้วยกระจก ทำให้สามารถเทควิวธรรมชาติด้านนอกได้แม้จะอยู่ภายในห้อง



          แต่ถ้าหากลูกบ้านท่านใดที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติก็สามารถเดินข้ามสะพานมาที่คลับเฮาส์อีกด้านหนึ่งได้ โดยบริเวณ Co-working space อีกฝั่งจะเป็นแบบเปิดโล่ง อยู่ติดกับสระว่ายน้ำและสวนสีเขียว มีโต๊ะหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ หรือโต๊ะนั่งแยก 2-4 ที่นั่ง ที่จัดวางไว้ทั้ง Outdoor และ Indoor เพื่อรองรับทุกการใช้งาน




          สิ่งที่โดดเด่นอีกข้อหนึ่งของ Co-working space จุดนี้ คือ เพดานสูงแบบ Double Volume ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย พร้อมรับลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ไม่อึดอัด



          ก่อนขึ้นไปถึงห้องฟิตเนส จะเห็นงานศิลปะที่ถูกวาดด้วยมือจากศิลปิน เป็นรูปต้นไม้สีเขียวที่ทำให้เห็นว่าทางโครงการพยายามสอดแทรกธรรมชาติเข้ามาในทุก ๆ พื้นที่ของโครงการ ซึ่งงานวาดนี้นี้อยู่บริเวณโถงบันไดก่อนขึ้นคลับเฮาส์ชั้น 2 ครับ



          เมื่อเข้ามาในห้องฟิตเนสจะรู้สึกได้ถึงความกว้างและปลอดโปร่ง เพราะ ผนังรอบห้องฟิตเนสถูกล้อมรอบด้วยกระจกใสบานใหญ่ สามารถเทควิวสวนดอกไม้และสนามหญ้าด้านล่างได้



          อุปกรณ์ออกกำลังกายที่โดดเด่นเตะตาก็คือ Boxing ที่ทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งหาได้ยากในหลาย ๆ โครงการ รวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่น ๆ ที่จัดไว้ให้อย่างครบครัน เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายของลูกบ้าน



          สำหรับสระว่ายน้ำของโครงการ เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่ถูกดีไซน์เป็นแบบ Free form มีความยาวประมาณ 20 เมตร แยกสระเด็ก - สระผู้ใหญ่ ถูกล้อมรอบด้วยสวนสีเขียวเกือบครึ่งหนึ่ง ว่ายน้ำเล่นไปก็สามารถชมสวนพักสายตาไปพร้อมกันได้ด้วย



          โดยสระว่ายน้ำนี้จะอยู่ติดกับโซน Co-working space สำหรับผู้ปกครองที่นั่งทำงานก็สามารถคอยมองดูบุตรหลานที่กำลังเล่นน้ำอยู่ได้เช่นกันครับ



          สวนส่วนกลางของโครงการมีถึง 2 จุดด้วยกัน แสดงถึงการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ โดยสวนจุดแรกจะอยู่ด้านหน้าโครงการติดกับสระว่ายน้ำ ที่ลูกบ้านสามารถออกมาทำกิจกรรม Outdoor กันได้ที่ตรงนี้






          และอีกจุดหนึ่งคือ ด้านในโครงการที่เพิ่งทำเสร็จใหม่เอี่ยม โดดเด่นด้วยหอระฆังขนาดใหญ่ โดยสวนนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร มีจุดนั่งพักผ่อนกลางสวน ทางโครงการปลูกต้นไม้และดอกไม้นานาชนิดเอาไว้เพื่อให้บรรยากาศเหมือนสวนในจินตนาการ ที่เขียวชอุ่มคอยให้ความร่มรื่นตลอดปี




          สำหรับพื้นที่สวนส่วนกลางตรงนี้จะถูกล้อมรอบด้วยบ้านโซนหน้าสวนไทป์ใหญ่สุดที่จะได้วิวดี ๆ ที่มีสวนส่วนกลางอยู่หน้าบ้านครับ



          สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิ่งออกกำลังกาย ทางโครงการก็จัด Jogging track กลางสวนเอาไว้ให้ด้วยครับ หมดกังวลว่าเรื่องอากาศร้อนเพราะตลอด 2 ข้างทางของ Jogging track จะเต็มไปด้วยต้นไม้ที่คอยให้ร่มเงา พร้อมสร้างความสดชื่นสูดอากาศบริสุทธิ์ไปพร้อม ๆ กันครับ



          ​สนามเด็กเล่นของโครงการ เป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้งที่มีสวนล้อมรอบ เต็มไปด้วยเครื่องเล่นเสริมพัฒนาการที่หลากหลาย มีพื้นยางรองรับการกระแทก และลดอาการบาดเจ็บของเด็ก ๆ พื้นที่สนามกว้างพอสมควร เด็ก ๆ สามารถรวมตัวกันมาเล่นในบริเวณนี้ได้ โดยมีที่นั่งกลางสวนให้ผู้ปกครองอยู่บริเวณใกล้ ๆ คอยดูแลความปลอดภัยให้กับบุตรหลาน


 
แบบบ้านโครงการ


 
          แบบบ้านของโครงการ “สราญสิริ พระราม 2” (Saransiri Rama 2) มีทั้งหมด 4 แบบ ถูกออกแบบด้วยสไตล์ Modern Farmhouse ที่แตกต่างแต่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ ให้ความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน พร้อมด้วยฟังก์ชันบ้านแบบพิเศษ อาทิ Enclosed Balcony พื้นที่อเนกประสงค์ในห้องนอน, Bay Window พื้นที่วางโซฟาสไตล์อังกฤษที่สามารถมองเห็นวิวนอกบ้านได้แบบ 180 องศา และ Connecting Living Area ที่พร้อมเชื่อมต่อช่วงเวลาดี ๆ ของทุกคนในบ้าน โครงการพยายามดึงความเป็นธรรมชาติเข้ามาใช้โดยการตั้งชื่อแบบบ้านแต่ละแบบให้เป็นชื่อของดอกไม้ทั้งหมด 4 ชนิด ถือเป็นความใส่ใจที่น่ารักจากทางโครงการครับ โดยบ้านทั้ง 4 แบบมีรายละเอียด ดังนี้

◾ แบบบ้าน COSMOS: พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน
◾ แบบบ้าน ASTER: พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน
◾ แบบบ้าน LILAC: พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน
◾ แบบบ้าน MUGUET: พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร ห้องครัว ที่จอดรถ 2 คัน

          สำหรับแบบบ้านที่เราจะพาไปดูวันนี้ คือ แบบบ้าน MUGUET ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้านในบ้านยังมีฟังก์ชันพิเศษที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก จะเป็นอะไรไปดูกันครับ
 
 
แบบบ้าน
MUGUET



 
          เริ่มต้นที่บ้าน MUGUET ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสุข มีความหมายเหมือนกับบ้านหลังนี้ที่เปรียบเสมือนศูนย์รวมความสุขของทุกคนในครอบครัว
.
◾ พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม.
◾ 4 ห้องนอน
◾ 4 ห้องน้ำ
◾ 1 ห้องรับแขก
◾ ส่วนรับประทานอาหาร
◾ ห้องครัว
◾ ที่จอดรถ 2 คัน
.

          เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่หรือคู่รักที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเอง ด้วยฟังก์ชันบ้านที่สามารถออกแบบพื้นที่แต่ละห้องได้อย่างอิสระรองรับทุกการปรับเปลี่ยนการใช้งานในอนาคต พื้นที่สีเขียวยังถูกดึงมาใช้จนถึงตัวบ้าน ด้วยสนามหญ้าจริงรอบบ้านเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวสามารถเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างแท้จริง



          หน้าบ้านสามารถจอดรถในร่มได้ถึง 2 คัน พื้นที่พอเหมาะ กว้างประมาณ 5.5 เมตร เหมาะสำหรับคู่รักที่กำลังเริ่มสร้างครอบครัวหรือครอบครัวไม่ใหญ่มาก สำหรับโครงการนี้ บ้านทุกขนาดสามารถจอดรถได้ 2 คันเหมือนกัน



          สำหรับสนามหญ้าหน้าบ้านรวมถึงรอบ ๆ บ้านมีความกว้างไว้ต่ำกว่า 1 เมตร ซึ่งทางโครงการปูหญ้าจริงเอาไว้ให้ด้วยครับ ถ้าครอบครัวไหนต้องการลงต้นไม้หรือพืชพรรณอื่น ๆ รอบบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มความสดชื่น ก็สามารถทำได้ครับ หรือต้องการเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นจิบกาแฟแบบ Semi Outdoor ก็สามารถทำได้สบาย ๆ เลย



          อีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านคือ ไฟกิ่ง ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน เป็นเอกลักษณ์ที่สื่อถึงสไตล์ตะวันตกได้อย่างชัดเจน

          จุดเด่นแรกของบ้านหลังนี้ที่เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่เข้าสู่ตัวบ้านคือ โถงต้อนรับ (Foyer) โดยบ้านทุกหลังจากมีโถงต้อนรับนี้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว พื้นที่ตรงนี้ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของบ้าน ให้ความรู้สึกถึงการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น




          เมื่อเข้ามาด้านในบ้านสามารถออกแบบพื้นที่โถงต้อนรับตรงนี้เป็นตู้วางรองเท้าหรือชั้นวางของ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาเข้า - ออกบ้าน



          เมื่อเดินตรงเข้ามาด้านในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น หรือจะใช้สำหรับรับรองแขกก็ได้ มีพื้นที่กว้างพอสมควร สามารถออกแบบวางโซฟาขนาดใหญ่ 5-6 ที่นั่ง ได้ทั้งแบบตัว L และตัว U และยังเหลือระยะห่างกำลังพอดีระหว่างที่นั่งกับโทรทัศน์




          พื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้านที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร สามารถนั่งเทควิวจากห้องรับแขกมาที่สวนหลังบ้านได้ โดยในบ้านจริงทางโครงการปูหญ้าจริงมาให้ สามารถจัดสวนนั่งเล่น Semi Outdoor ได้ หรือจะสร้างบ่อเลี้ยงปลา น้ำตกหลังบ้าน แบบที่ทางโครงการทำมาให้ดูก็ได้ ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีเลย



          สำหรับ Dinning Area จะเชื่อมต่อจากพื้นที่รับแขก มีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร จัดที่นั่งได้ประมาณ 6-8 ที่นั่ง



          ถ้ามองจากมุมโต๊ะรับประทานอาหารก็จะสามารถมองเห็นวิวสวนหลังบ้านได้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าทางโครงการให้ความสำคัญกับการใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้านก็สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวได้



          และถ้ากลับมามองภาพรวมของโถงกลางบ้าน จะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น และให้ความรู้สึกของบ้านสไตล์ Modern Farmhouse ที่ไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่หน้ากากบ้าน แต่เอกลักษณ์ของการออกแบบถูกดึงเข้ามาใช้ถึงในตัวบ้าน เช่น พื้นบ้านมาตรฐานที่โครงการใช้พื้นลามิเนตของ SB ที่มีเป็น Texture และสี เป็นสีไม้ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสไตล์ตะวันตกที่จะมีพื้นบ้านเป็นไม้สีอุ่น



          ห้องครัวเชื่อมต่อกับ Dinning Area สามารถกั้นห้องเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องกลิ่นรบกวนจากการทำอาหารไม่ให้เข้าไปสู่ตัวบ้าน ซึ่งบริเวณเคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่กว้าง สามารถยืนทำอาหารร่วมกันได้ประมาณ 2-3 คน



          โดยภายในโซนเดียวกันจะมีพื้นที่ซักล้างที่เตรียมระบบท่อไว้ให้พร้อมใช้งานอยู่แล้ว สามารถวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และรีดผ้า ในบริเวณนี้ได้เลยครับ เพราะมีพื้นที่กว้างพอสมควร หรือถ้าต้องการออกมาตากผ้าด้านนอกบ้าน ก็สามารถเดินเชื่อมจากห้องนี้ออกไปด้านข้างบ้านได้จากประตูข้างบ้านครับ




          นอกจากนี้ ทางโครงการยังออกแบบบ้านมาให้ทุกตารางนิ้วในบ้านสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เช่น ห้องเก็บของใต้บันได พื้นที่ค่อนข้างกว้าง ที่สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือของที่ไม่เรียบร้อยที่อยากเก็บไว้ให้พ้นสายตา ก็สามารถเก็บไว้ที่ห้องนี้ได้ครับ



          และแน่นอนว่าที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ห้องนอนชั้นล่าง ที่แอบหลบมุมไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว ซึ่งห้องนี้จะได้กระจกบานใหญ่ที่มองเห็นวิวสวนสีเขียวด้านหน้าบ้าน



          แต่หากบ้านไหนอยากออกแบบห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ เช่น ห้องทำงานส่วนตัว ห้องนั่งเล่นส่วนตัว หรือจะทำเป็นห้องนั่งดื่มเอาไว้สังสรรค์กับเพื่อน ๆ เหมือนกับที่โครงการทำเป็นไอเดียไว้ก็ได้เช่นกัน



          โดยห้องนี้จะอยู่ติดกับห้องน้ำ ที่มี Shower พร้อมใช้สำหรับครอบครัวที่กั้นห้องอเนกประสงค์นี้เป็นห้องนอน โดยโครงการกั้นโซนแห้ง - โซนเปียก รวมถึงทำพื้นต่างระดับ เอาไว้ให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน



          จุดเด่นต่อมาที่บ้านทุกไทป์มีเหมือนกัน คือ พื้นที่วางตรงชานพักบันได ที่จะกว้างกว่าปกติ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ในการออกแบบเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนเล็ก ๆ จิบน้ำชายามบ่าย แบบที่โครงการแต่งไว้ให้ดูก็ได้ หรือถ้าต้องการใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ตั้งตู้วางของเพื่อจัดระเบียบบ้านให้น่าอยู่มากขึ้นก็สามารถทำได้



          โดยพื้นที่ชานพักตรงนี้จะอยู่ติดกับกระจกบานใหญ่เต็มบานที่จะดึงแสงธรรมชาติมาใช้ในบ้าน ให้ความรู้สึกโปร่ง สว่าง ซึ่งทางโครงการต้องการเพิ่มพื้นที่นั่งพักผ่อนและให้ทุกคนในบ้านมีพื้นที่ทำกิจกรรมของตัวเองได้ในทุก ๆ มุมของบ้าน



          เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 2 ด้านขวามือจะเป็นโถงที่ถูกออกแบบมา เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น มุมนั่งเล่นชั้น 2 หรือมุมนั่งทำงานส่วนตัว โดยสามารถต่อเติมกั้นพื้นที่โซนนี้เป็นอีกห้องหนึ่งได้เพื่อความเป็นส่วนตัว



          หนึ่งจุดที่น่าสนใจของพื้นที่ตรงนี้ คือ สามารถมองเห็นที่นั่งพักผ่อนตรงชานบันไดได้ ทำให้สมาชิกในครอบครัวที่ทำกิจกรรมทุกพื้นที่ของบ้านสามารถเชื่อมต่อกันได้เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว



          สำหรับ Master Bedroom ของบ้านทุกไทป์ในโครงการจะมีเพดานจั่วทรงสูงประมาณ 3 เมตร ให้ความรู้สึกว่าห้องดูกว้างขึ้น ไม่อึดอัด ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกบานใหญ่เต็มบานยิ่งทำให้ห้องสว่างขึ้นแม้ไม่เปิดไฟ พร้อมรับแสงและวิวธรรมชาติ



          สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet สามารถวางตู้เสื้อผ้าตู้ใหญ่ชิดผนังได้เต็มพื้นที่ และเหลือพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งที่ติดกับหน้าต่าง พร้อมรับแสงธรรมชาติเวลาแต่งหน้าได้ครับ โดยพื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อโดยตรงกับห้องน้ำใหญ่ที่กั้นโซนแห้ง - เปียกไว้ให้ หมดกังวลเรื่องความปลอดภัยเวลาใช้งาน เพราะโซนนี้จะถูกจัดไว้แบบหลบมุม หรือถ้าหากต้องการความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นก็สามารถกั้นประตูปิดเป็นสัดส่วนชัดเจนอีกชั้นหนึ่งได้ครับ


          และภายในห้อง Master Bedroom มีจุดเด่นอยู่ 2 จุด คือ Bay window ที่มักจะได้เห็นมุมแบบนี้ในบ้านสไตล์ตะวันตก ซึ่งทางโครงการก็ดึงเอาจุดเด่นนี้มาใช้กับบ้านทุก ๆ หลังด้วยครับ ข้อดีของการมี Bay window คือสามารถจัดมุมนั่งพักผ่อนที่ได้ชมวิวด้านนอกแบบ 180 องศา โดยเจ้าของบ้านสามารถจัดมุมตรงนี้เป็นมุมนั่งพักผ่อนจิบน้ำชายามเช้า หรือมุมอ่านหนังสือ แบบที่ทางโครงการแต่งไว้ให้ดูก็ได้ครับ



          จุดเด่นที่ 2 ที่อยู่ในห้อง Master Bedroom คือ มุมนั่งพักผ่อน Enclosed Balcony ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง ซึ่งจะถูกหลบมุมไว้ ทางโครงการตกแต่งไว้เป็นมุมนั่งพักผ่อนอีกมุมหนึ่งสำหรับครอบครัว หรือถ้าครอบครัวไหนอยากใช้พื้นที่นี้เป็นห้องทำงานส่วนตัว ถ้าไม่ต้องการถูกรบกวนจากภายนอกก็สามารถกั้นเป็นอีกห้องที่ซ่อนอยู่ในห้องนอนก็ได้ครับ โดยจุดเด่นของพื้นที่นี้คือ มีผนังทั้ง 2 ด้านเป็นกระจก พร้อมรับแสงและวิวธรรมชาติได้แบบเต็ม ๆ แสดงให้เห็นว่าบ้านในโครงการนี้ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว ทุกพื้นที่ในบ้านสามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนได้



          สำหรับห้องนอนที่ 2 มีขนาดไล่เลี่ยกับห้องนอนใหญ่ มีกระจกบานใหญ่ถึง 2 จุดที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ห้องกว้างพอสมควร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ที่สามารถ Build-in ชั้นวางของหรือตู้เก็บของเพิ่มได้อีก



          ห้องนอนที่ 2 มีห้องน้ำขนาดพอดีตัวแยกโซนแห้ง - เปียก มีพื้นที่ก่อนถึงตัวห้องน้ำที่สามารถ Build-in ตู้เสื้อผ้า ที่สามารถกั้นเป็น Walk-in Closet เล็ก ๆ ได้ หรือจะต่อเติมประตูเพื่อกั้นพื้นที่ตรงนี้กับห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ครับ



          และสุดท้าย คือ ห้องนอนที่ 3 เป็นห้องที่มีพื้นที่เล็กที่สุด แต่ก็ยังสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ครับ หรือครอบครัวไหนที่มีลูกเล็ก ก็สามารถทำห้องนี้เป็นห้องนอนเด็ก ๆ เหมือนกับที่ทางโครงการจัดไว้ให้ก็สามารถทำได้ แต่ก็สามารถรองรับเด็กโตไปจนถึงผู้ใหญ่ได้



          ถึงแม้ว่าห้องนอนนี้จะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็มีพื้นที่ที่สามารถ Build-in ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางของที่มุมอีกฝั่งของห้องที่อยู่ติดกับห้องน้ำในตัวของห้องนี้ครับ


 
สรุป 6 จุดเด่นของ
สราญสิริ พระราม 2 (Saransiri Rama 2)



 
          เป็นอย่างไรกันบ้างกับโครงการ “สราญสิริ พระราม 2” (Saransiri Rama 2) หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับบ้านแบรนด์ สราญสิริ จาก แสนสิริ คือ เอกลักษณ์ด้านการออกแบบ และการดึงเอาเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์ตะวันตก Modern Farmhouse เข้ามาใช้ตั้งแต่ทางเข้าโครงการจนถึงตัวบ้าน ฟังก์ชันพิเศษภายในบ้าน รวมถึงบรรยากาศโครงการที่สวยสง่าทุกพื้นที่
.

          และที่สำคัญ คือ ทำเลที่ตั้งโครงการที่เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงพื้นที่บ้านที่กว้างขวางด้วยราคาเริ่มต้นไม่ถึง 10 ล้านบาท ตัวโครงการยังมีความน่าสนใจอีกมากมาย ขอสรุปสิ่งที่โดดเด่นในมุมมองของ inside2home มาเป็น 6 ข้อดังนี้
.
◾ ทำเลใจกลางพระราม 2 เชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญ สามารถเข้าสู่โครงการได้ถึง 4 เส้นทาง คือ จากถนนพระราม 2, จากทางพิเศษเฉลิมมหานครลงทางด่วน, จากถนนสุขสวัสดิ์ และจากวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งใต้
◾ แบบบ้านเป็นเอกลักษณ์สไตล์ Modern Farmhouse เป็นเอกลักษณ์ ที่ถูกดึงเข้ามาใช้กับฟังก์ชันบ้าน ที่ดึงเอาเอกลักษณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ จากบ้านแบบตะวันตกมาใช้ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านน่าอยู่และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโครงการ ถือเป็นความใส่ใจในการออกแบบโครงการ
◾ ฟังก์ชันบ้านแบบพิเศษไม่เหมือนใครที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่กลับบ้าน เช่น Enclosed Balcony, Bay Window และ Connecting Living Area พร้อมสัมผัสบรรยากาศการพักผ่อนจากทุกพื้นที่ในบ้าน รองรับอิสระในการออกแบบห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ
◾ ตัวคลับเฮาส์และสวนส่วนกลางโดดเด่น ด้วยงานสถาปัตย์กรรมอันสง่างามแต่อบอุ่นราวกับสวนของปราสาท
ให้ความรู้สึกแตกต่างเมื่อเข้าสู่ตัวโครงการ
◾ให้ความสำคัญกับธรรมชาติทั้งโครงการ ด้วยพืชพรรณนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นในสวนส่วนกลางหรือแม้กระทั่งสวนรอบบ้าน ทุก ๆ พื้นที่ของโครงการจะมองเห็นสีเขียวและสีสันของดอกไม้ ให้ความรู้สึกสดชื่นและเย็นสบายอยู่ตลอด
◾ คลับเฮาส์สวยที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Co-working space 2 รูปแบบ ,ห้องฟิตเนส จัดเต็มทั้งชั้นของคลับเฮาส์, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สนามเด็กเล่นและ Jogging track กลางสวน รองรับทุกกิจกรรมของลูกบ้าน
.
​สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ http://siri.ly/UV261T3
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดเยี่ยมชมโครงการ : 1685
Email: sales_sr2@Sansiri.com
แผนที่โครงการ : 
https://goo.gl/maps/9DZtirdahP46S23e6

ไอเดียแต่งบ้าน